วันที่ 22 -23 ธันวาคม 2564 พพ. นำสื่อมวลชนลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก(นำร่อง)ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พร้อมสร้างความรู้ความใจให้กับวิสาหกิจชุมชนด้านพืชพลังงาน สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาอย่างยั่งยืน
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่ อ.ขุนตาล จ.เชียงราย เยี่ยมชมพื้นที่นำร่องโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก บริษัท โรงไฟฟ้าชุมชนนาบอน จำกัด (โรงไฟฟ้าชุมชนขุนตาลรุ่งเรือง) และวิสาหกิจชุมชนปลูกหญ้าเนเปียร์เพื่อจำหน่ายและเลี้ยงสัตว์ในการผลิตไฟฟ้าแก๊สชีวภาพ
ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า พพ.ได้ดำเนินโครงการสื่อสารสร้างการรับรู้ตามนโยบายส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนให้บรรลุเป้าหมายตามแผนส่งเสริมพลังงานทดแทน โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชุมชน/ วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้สามารถเข้าถึงและเข้าใจข้อมูลองค์ความรู้และผลประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับจากโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับจากชุมชน จึงได้จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร และกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับวิสาหกิจชุมชน พื้นที่รอบโรงไฟฟ้าในแต่ละภูมิภาค สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในภาคเหนือจังหวัดเชียงราย โดย พพ.ได้นำคณะสื่อมวลชนทั้งจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเข้าเยี่ยมชมพื้นที่นำร่องโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากพร้อมพบปะพูดคุยกับประธานวิสาหกิจชุมชน,กรรมการวิสาหกิจชุมชน,ชุมชนและสมาชิกปลูกหญ้าเนเปียร์เพื่อจำหน่ายและเลี้ยงสัตว์ และตัวแทนโรงไฟฟ้าชุมชนกลุ่มบริษัท ACE ในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้จัดกิจกรรมเสวนา และนิทรรศการเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับวิสาหกิจชุมชนพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ณ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับพืชพลังงาน ถือเป็นหนึ่งในนโยบายพลังงานเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่ช่วยให้ชุมชนมีรายได้จากการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าและลดภาระค่าใช้จ่าย มีรายได้จากการจำหน่ายวัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างความเข้มแข็งในชุมชน ลดการย้ายถิ่นฐานของแรงงาน เกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในชุมชน ซึ่งภายในงานมีการเสวนาสร้างความรู้ความเข้าใจ “โรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก” จากผู้เกี่ยวข้อง อาทิ โรงไฟฟ้าชุมชนในพื้นที่,ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเขต1(เชียงใหม่) โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 200 คน
ดร.ประเสริฐ กล่าวอีกว่า โครงการนำร่อง โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก มีเป้าหมายในการรับซื้อไฟฟ้ารวม 150 เมกะวัตต์ โดยใช้เชื้อเพลิงชีวมวลที่ได้จากการปลูกไม้โตเร็ว และก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงาน ซึ่งปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้ประกาศผลการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 43 โครงการ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 16 โครงการ และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 27 โครงการ ปริมาณเสนอขายไฟฟ้ารวม 149.50 เมกะวัตต์ กระจายทั่วทุกภาคของประเทศ โดยมีค่าไฟฟ้าเสนอขายเฉลี่ย 3.1831 บาทต่อหน่วย