
มีฟันเฟืองอยู่อันหนึ่งหมุนบดโม่อยู่ตลอดเวลาไม่มีวันหยุดยั้ง เรียกมันว่ากฎแห่งกรรม มีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นที่รองรับเรียกว่าวัฏสงสาร มีภูมิต่างๆ 31 ภูมิเป็นที่ไปมีส่ำสัตว์น้อยใหญ่เวียนว่ายอยู่ภายใน
สัตว์เหล่านี้เปลี่ยนสถานไปต่างๆตามสภาวะแห่งความยึดของตนเรียกว่าภพหรือภวะลากเสียงอีกหน่อยอย่างคนไทยก็กลายเป็นภาวะ ทีนี้เรามาดู ตัวอักษร ว และ พ ในภาษาบาลีสันสกฤตเขาถือเป็นตัวเดียวกันแทนกันได้ ดังนั้น ภาวะ จึงเป็น ภาพะ ตัดสระอะออก ก็คือภาพ เติม อุปสรรคคือ ส ข้างหน้า ภว ธาตุก็กลายเป็นอีกศัพท์ เป็น สภาพ ที่เรารู้จักกันอยู่แล้วคือสภาพที่เป็น การเปลี่ยนภพหนึ่งไปสู่ภพหนึ่งเรียกว่าชาติ คือการเกิดใหม่อีกครั้งวนเวียนอยู่อย่างนี้
ภพ คือ สภาพ
ภูมิ คือ ที่อยู่
ชาติ คือ การเกิด หรือการได้เกิด
คติ คือ ความยึดติดที่จะพาเหล่าสัตว์ไปสู่ภพภูมิต่างๆ เรียกอีกอย่างว่า ทางไป คือการเปลี่ยนจากภพหนึ่งไปสู่อีกภพหนึ่ง
ทีนี้ เรามาดู 31 ภพภูมิที่เหล่าสัตว์ต่างเวียนว่ายไปมาว่ามีสภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง และการจะไปจะมาในระหว่างภพภูมิต้องทำอย่างไรหรือพูดอีกอย่างว่าตัวตนของเขาเป็นอย่างไร
ภพ คือ สภาวะ ภูมิ คือ ที่อยู่
วัฏฏะ คือ วนหรือกลับไปกลับมาวนเวียนเปลี่ยนไปมาอยู่วงกลมนี้ มีทั้งสุขและทุกข์อยู่ในนี้ไม่สามารถหลุดพ้นไป เพียงสามารถเปลี่ยนสภาวะการเป็นไปได้ในวัฏฏะนี้จึงเรียกว่าวัฏสงสารคือล้วนได้รับทุกข์สุขไปตามคติแห่งตน มีบ้างที่เหล่าสัตว์สามารถหลุดรอดออกไปได้ แล้วไม่กลับมาทุกข์ในวัฏฏะนี้อีก เรียกว่านิพพาน ซึ่งเหล่าสัตว์มีสิทธิ์เสมอภาคกันที่จะทำเพื่อการหลุดพ้นออกไปคือต้องมีคติว่า จะทำพระนิพพานให้แจ้ง เมื่อแจ้งแล้วจึงพ้นไปได้ เรียกว่าต้องปฏิบัติตามอริยะมรรค ซึ่งจะเล่าในโอกาสต่อไป
31 ภพภูมิ แบ่งออกเป็นสุคติภูมิ 3 ทุคติภูมิ 4 และภูมิกลางๆมีสุขมีทุกข์อีก 1
สุคติภูมิ เป็นภูมิที่มีแต่สุขเพียงอย่างเดียว แบ่งเป็น 3 ภูมิ คือฉกามาพจรสวรรค์ นี่มี 6 ชั้นหรือ 6 ภูมิ รูปพรหม 16 อรูปพรหม 4 รวมเป็น 26 ทุคติภูมิ 4 คือนรก เปรต อสุรกายและเดรัจฉาน และภูมิกลางๆ 1 คือ มนุษยโลก
มนุษยโลกถือว่าเป็นจุดเริ่มของกรรมเพราะสามารถสร้างได้ทั้งกรรมดี อันมีสุคติภูมิเป็นที่ไปพวกนี้เสวยสุขแต่เพียงอย่างเดียว และหากสร้างกรรมชั่ว จะมีทุคติภูมิเป็นที่ไป ที่นี่เสวยแต่ทุกข์ล้วนๆ และหากชั่วไม่มี ดีไม่ปรากฏเรียกโมฆะบุรุษ พวกนี้มักถูกสภาพแวดล้อมชักนำไปให้ได้ทั้งดีทั้งชั่ว สังคมดีก็มีความสุข สังคมเดือดร้อนก็ได้รับผลกระทบด้วย เมื่อแตกกายทำลายไปหรือตายมักไม่ถึงภูมิที่ดี แต่ก็ไม่ถึงต้องไปนรก พวกนี้โดยมากจะเป็นวิญญาณตกค้างอยู่ในโลกมนุษย์ มีวิบากเหมือนตอนเป็นมนุษย์ ต้องดิ้นรนหากินตามสภาพเพื่อรอเวลาไปเกิดใหม่ตราบนานเท่านานตามความยึดติดแห่งตน บางดวงวิญญาณต้องติดค้างอยู่ในสภาพนี้นับพันๆปี
ผู้ที่เข้าถึงเรียกว่าเสวยผลหรือวิบาก คือต้องทำไว้ก่อนจึงจะมีผลเป็นเครื่องรองรับ เมื่อไม่มีผลบุญคือความดีเป็นเครื่องรองรับ ไม่มีความชั่วเป็นเครื่องดึงไปอบายภูมิ บวกกับความหลงติดในสภาวะของตนคือความเป็นคน ดวงจิตหรือวิญญาณจึงหลงวนอยู่บนโลก รับสุข รับทุกข์อย่างคน แต่ไม่มีร่างกายให้เห็นเป็นตัวตน ไม่มีผลบุญคือการให้ทานไว้ก่อนจึงยังลำบาก ต้องแสวงหาเครื่องเซ่นไหว้เพื่อเลี้ยงชีพตน จึงต้องหาคนที่มีความเกี่ยวเนื่องบังคับจิตให้เป็นร่างทรง อาศัยอยู่มานานหลายร้อยปีจึงมีความรู้เรื่องโลกๆอยู่บ้างเป็นเครื่องบอกกล่าวผู้คนได้บ้าง เพื่อหวังเครื่องบัดพลีเลี้ยงชีวิตตน
เหล่านี้เองคือที่มาของเจ้าเข้าทรงที่ได้กล่าวไว้เมื่อครั้งก่อน แล้วครั้งหน้าเราจะมาพูดถึงเขาเหล่านี้อีกทีนะคะ