คอลัมน์ » PM 2.5 หมอกควันพิษ…มันมาแน่!!!

PM 2.5 หมอกควันพิษ…มันมาแน่!!!

12 กุมภาพันธ์ 2024
199   0

ถ้าความจำของทุกคนยังอยู่ในระดับปกติ ก็คงไม่ลืมว่าเมื่อเดือนมีนาคมของต้นปีที่

ผ่านมา อำเภอแม่สายที่อยู่ติดชายแดนเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์ ได้เกิดปัญหาหมอก

ควันพิษในระดับเลวร้ายต่อเนื่องนับสิบวัน !!!

ที่ว่าเลวร้ายนั้นคือ ค่าฝุ่น PM 2.5 ทุ่งแตะระดับ 568 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร !

เราคงได้เห็นภาพแม่สายช่วงนั้น เหมือนมีหมอกปกคลุม มืดครึ้ม เป็นภาพที่ทนักกว่าภาพเมืองในหมอก

ของฤดูหนาวทั่วๆไป จนชาวแม่สายอตรนทนไม่ไหว พากันเดินซบวน แสดงพลัง กันไปตามท้องถนนและไปหยุด ยื่นหนังสือที่หนำาที่ว่าการอำเภอ เรียกร้องให้ทางการแก้ปัญหาด่วน !!

เพราะมันกระทบทั้งสุขภาพและเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างรุนแรง ชนิด 10 ผ่านมายังไม่เคยเจอ

มาดูข้อเรียกร้องของชาวแม่สายในวันนั้นกันหน่อยเป็นไร แต่ละเรื่องแต่ละข้อถ้วนน่าสนใจ ผ่านนาย อำเภอไปถึงผู้ว่าราชการ จนถึงรัฐบาล…และผ่านมาเกือบปีแล้วได้รับการตอบสนองไปแค่ใหน ? อย่างไร ?

1.ระยะเร่งด่วน

-ให้ภาครัฐประกาศเซตภัยพิบัติฉุกเฉินทันที เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน โดยให้หน่วยงานด่างๆในพื้นที่ สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นควัน PM 2.5 เช่น หน้ากากอนามัย ยา เวชภัณฑ์ และเครื่องฟอกอากาศ ฯลฯ สำหรับประชาชนอย่างเร่งด่วน

– ให้ผวจ.เชียงรายและหน่วยงานที่เกี่ยวซ้องในพื้นที่ เร่งหารือการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันข้ามแดน ซึ่งเป็นผลกระทบต่อประชาชน จากการทำเกษตรกับรัฐฉาน ประเทศเมียนมาร์ และสปป.ลาว

– ให้เราแจ้งประทศเพื่อนบ้านให้ลด หรืองดการผาในพื้นที่ป่า และพื้นที่การเกษตรในช่วงสถานะการณ์คุณภาพอากาศย่ำแย่ โดยยึดข้อตกลงอาเซียน ว่าด้วยมลพิษหมอกควันข้ามแดน ซึ่งสมาชิกอาเซียนทุกประเทศได้มีการลงนามร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2002

– ให้มีการเฝ้าระวังและป้องปราม การลักลอบเผาป่าในเซดชายแดนของประเทศอย่างรัดกุม และ

สนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องมือ อย่างเพียงพอแก่กลุ่มเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดับไฟป่า

  1. ระยะยาว-เพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

-ให้รัฐบาลกำหนดเกณฑ์คำมาตรฐานของสภาพอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เพื่อประกาศเป็นเซตภัยพิบัติฉุกเฉินให้ซัดเจน

– ให้จังหวัดและอำเภอแม่สาย จัดทำแผนรับมือสถานะการณ์ ผลกระทบจากปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นรูปธรรม และแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติของภาคส่วนต่างๆ ในอนาคต

-ให้รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ศึกษาผลกระทบ การนำเข้าเสริ(AFTA)ข้าวโพคเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีผลให้เกิดการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มากขึ้น ซึ่งเป็นสาเทตุสำคัญของปัญหาการเผาป่า และปัญหาหมอกควันจากการเผาพื้นที่เพื่อทำเกษตร และให้ยกเลิกอัตราการเก็บภาษีนำเข้าข้าวโพดร้อยละ 0%

-ให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชิญผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้นำเข้าข้าวโพคเลี้ยงสัตว์ เจรจาหารือหาแก้ปัญหาการเผาข้าวโพด และผลกระทบต่างๆจากการท่การเกษตร ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน

– ให้รัฐบาลยกระดับการแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน ให้เป็นปัญหาระดับภูมิภาคอาเซียนเพื่อให้มี

มาตรการแก้ปัญหาร่วมกับชาติสมาชิกอย่างจริงจัง และเป็นรูปธรรมยั่งยืน

เราเห็นพ้องด้วยกับข้อเสนอแนะของ”เครือข่ายภาคเอกชนและประชาชน อ.แม่สาย “ที่ประกาศ

ท่ามกลางกลุ่มหมอกควันพิษที่ปกคลุมเมืองแม่สายจนมืดมิดในวันนั้น !!!

ขณะเดียวกัน…ด้านกรมควบคุมมลพิษ (คพ.)แถลงความห่วงใยในเรื่องนี้ด้วยว่า…”เอลนีโญจะมีกำลังแรงตั้งแต่ปลายฤดูฝนปี 2566 ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงฤดูร้อนปี 2567 อุณทภูมิเฉลี่ยมีแนวโน้มจะสูงกว่าปกติทำให้อากาศร้อนและแล้งมากขึ้น ปริมาณฝนรวมมีแนว โน้มที่ต่ำกว่าคำาปกติ 10% ซึ่งจะส่งผลให้สถานะการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองในปี 2567 จะมีความรุนแรงมากขึ้น”

อย่าคิดว่านี่เป็นความรู้สึกกระต่ายตื่นตูมเลยนะครับ !!

เพราะถ้าแต่ละมาตรการที่เตรียมกันมาและยังถูกเก็บในลิ้นชัก ก็เชื่อขนมกินได้เลยว่า ปีนี้ก็เหมือนปีก่อนๆที่เราต้องผจญชะดากรรมกันตามลำพังอย่างหลีกเสี่ยงไม่ได้

เช่นเคย !!
……………………..จบจบจบจบ……………………….



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า