ที่ว่าได้อรรถรสก็เพราะว่า มันได้มากกว่าความสุข ได้ทั้งรู้จักผู้คน ได้เห็นพัฒนาการเมือง ชุมชน ได้วัตถุดิบมาเป็นข้อมูลทำคอนเท้นท์ ได้รู้จักพื้นที่ที่ไม่เคยไป รวมถึงได้รับความรู้
ก็ต้องขอขอบคุณ คุณเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย ที่กรุณาส่งปฎิทินและรายการกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญๆของจังหวัดเชียงรายมาให้ผมทุกเดือน
เฉพาะเดือนธันวาคม 2566 เดือนเดียวก็จุใจ ทั้งงานมหัศจรรย์ 10 ชาติพันธ์ แม่สาย ที่อำเภอแม่สาย งานมหกรรมดอกไม้อาเซียนเชียงราย 2023 ที่มีองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายเป็นเจ้าภาพ งานเชียงรายดอกไม้งาม ที่มีเทศบาลนครเชียงรายเป็นเจ้าภาพ
พูดถึงงานดอกไม้ไฮไลท์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองเชียงรายแล้ว ผมว่าเป็นความโชคดีของประชาชนคนเชียงรายที่องค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น ที่มีวิชั่นและหมุดหมายตรงกันในการชูดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิดมาเป็นจุดขาย ให้ใครๆทั้งจากต่างจังหวัดและต่างประเทศต่างก็อยากทอดน่องท่องสวนดอกไม้หลากสีสันลานตาลานใจ สร้างรายได้ให้แก่จังหวัดเชียงรายไม่น้อยเลยในแต่ละปี
อีกงานหนึ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวเชียงรายอย่างล้นเหลือก็คือ Thailand Biennale Chiang Rai 2023 หรือ “มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งที่ 3W ซึ่งคาดกันว่ากว่าจะจบโปรเจ็คต์นี้ในเดือนเมษายน 2567 เชียงรายจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
งานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ จัดแสดงลากยาวทุกวันไปจนถึง 30 เมษายน 2567 รวม 5 เดือน มีหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะประชาชนในชุมชนที่เข้ามามีบทบาทผลักดันศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นให้ลงตัวกับเศรษฐกิขชุมชน สร้างรายได้ สร้างหน้าตาชื่อเสียง สร้างอารมณ์ร่วม สร้างพลัง สร้างการขับเคลื่อนเผยแพร่วิถีชีวิตวัฒนธรรมชุมชนให้ประจักษ์ต่อสายตาชาวไทยและชาวโลก
ประเด็นเศรษฐกิจชุมชนถ้านึกไม่ออกก็ให้นึกถึงเทศกาลหรือ carnival ที่ขาวบ้าน นักเรียน นักศึกษา หน่วยงานในท้องถิ่นแต่ละอำเภอยกขบวนแห่ “มีดีต้องอวด” นำมาจัดแสดง ณ หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ ใจกลางเมืองเชียงราย โดยมี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน เรียกน้ำย่อยเมื่อคืนวันที่ 9 ธันวาคม 2566 นี่ยังไม่นับรวมสินค้าชุมชน หัตถกรรมอัตลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่ทยอยเปิดตัว โดยชูธงศิลปะล้านนาเป็นจุดขาย
คุณพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย จัดส่งรายชื่อ 18 สถานที่จัดนิทรรศการหลักมาให้ผมใช้ปักหมุดไป ซึ่งท่านผู้อ่านก็สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย หรือขัวศิลปะเชียงราย ซึ่งทั้ง 18 แห่งนั้นจัดอยู่ในอำเภอเมือง 10 จุด ที่เชียงแสนอีก 8 จุด
ทั้ง 18 แห่งที่ว่านี้ ก็จะมีงานนิทรรศการศิลปะร่วมสมัยจัดแสดงให้ประชาชน นักท่องเที่ยวที่สนใจได้เที่ยวชมและศึกษา สืบค้น หาคำตอบจากคมความคิดของศิลปิน ไปสู่การขยายผลหรือต่อจิ๊กซอว์ทางความคิดของเราในฐานะผู้ชม ซึ่งผมเชื่อว่า แต่ละชิ้นงานล้วนมีเหตุและผลที่มาที่ไปที่ศิลปินทั้งจากต่างประเทศและในประเทศได้ครีเอทขึ้น
The Open World คือ ม้อตโต้ประจำงาน Thailand Biennale Chiang Rai 2023 ผมไม่รู้ที่มาที่ไปของคมความคิดที่ต้องการเปิดโลก แต่มันโดนใจใช่เลยสำหรับวลี “เปิดโลก”
ผมมีโอกาสไปที่อุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง หรือไร่แม่ฟ้าหลวง บ้านป่างิ้ว เข้าชมงานศิลปะของ คุณเหงียน ตรันห์ ตี จากเวียดนาม สถานที่หนึ่งที่ผมเข้าไป คือ “หอคำ” เฮือนไม้สักโบราณ พอพ้นบันไดช้างก้าวข้ามประตูเข้าไปในบริเวณหอคำ ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณ โบราณวัตถุ ก็พบแต่ความมืดมองอะไรไม่เห็น เพราะเขาปิดไฟไว้ ต้องยืนนิ่งๆปรับเรติน่าสายตาให้ชินกับความมืดสลัวภายในหอคำอยู่พักหนึ่ง
แล้วผมก็ได้ยินเสียงน้ำไหล เสียงเครื่องดนตรีประเภทเครื่องตีกระทบกัน เสียงมโหรี ซึ่งก็ดูเหมือนปกติธรรมดา แต่มาเปิดโลกรู้อะไรเป็นอะไรก็ตอนที่เจ้าหน้าที่ประจำจุดแสดงที่หอคำอธิบายว่า เสียงน้ำที่ได้ยิน คือ เสียงแม่น้ำโขงจริงๆ ที่มีการวางระบบไว้ใต้แม่น้ำโขงจากชายแดนเชียงของ-ลาว ที่มีเสียงดังหนักเบาผ่านระบบ AI เข้ามาในหอคำ คละเคล้ากับเสียงดนตรีผ่านเทคโนโลยี ก็เลยถึงบางอ้อ
ที่สำคัญคือ เสียงหนักเบาของแม่น้ำโขงที่มาร่วมบรรเลงมหรสพเสียงอยู่ในหอคำให้ได้ยินนั้น เป็นสภาพปัจจุบันในระบบนิเวศของแม่น้ำโขงที่กำลังมีแนวคิดพัฒนาไฟฟ้าพลังน้ำและการระเบิดแก่งหินในลำน้ำโขง ซึ่งเป็นแนวคิดจากประเทศเพื่อนบ้าน ในขณะที่ประชาชนกลุ่มรากหญ้าในอำเภอเชียงของ โดยการนำของครูนิวัฒน์ ร้อยแก้ว หรือ ครูตี๋ จากกลุ่มรักษ์เชียงของ ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของชีวภาพสมบูรณ์ในลำน้ำโขงต่างออกมารณณงค์คัดค้านการทำลายระบบชีวภาพในแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง
จิตวิญญาณของแม่น้ำโขงผ่านสุ้มเสียงน้ำไหลที่ดังแรงบ้างเบาบ้างผสมผสานกับเครื่องดนตรีท้องถิ่น เป็นมหรสพเสียงฟ้องโลก จึงเป็นศิลปะแห่งสุ้มเสียงที่ศิลปินชาวเวียดนามร่วมกับกลุ่มรักษ์เชียงของได้ออกแบบขึ้นมาจัดแสดงในงานไทยแลนด์ เบียนนาเล่ครั้งนี้
ตัวอย่างศิลปะลึกซึ้งอย่างนี้ เป็นใครก็ต้องทึ่งในศิลปินที่ช่างคิดช่างออกแบบ หลายชิ้นงานที่ศิลปินต่างชาติต้องมาฝังตัวพำนักอาศัยอยู่ในเชียงรายหลายสัปดาห์ เพื่อใช้ชีวิตและเรียนรู้ให้เข้าถึงแก่นและกระพี้ของชีวิตและวิถีชีวิตชุมชน เพื่อให้ได้ชิ้นงานศิลปะเปิดโลกมาโชว์ในงานศิลปินร่วมสมัยระดับนานาชาตินี้
พูดถึง Thailand Biennale Chiang Rai 2023 มากหน่อย เพราะอยากจะเชื้อเชิญให้ท่านผู้อ่านนสพ.เชียงรายนิวส์ ได้ปลีกเวลาเที่ยวชมงานในแต่ละสถานที่ หากหรือไม่สะดวกขับรถไม่รู้พิกัดสถานที่ใดอยู่ตรงไหน? ท่านอยู่ใกล้สถานที่จัดนิทรรศการตรงไหนทางจังหวัดก็มีรถยนต์ตู้ไว้บริการรับ-ส่งหลายสิบคัน ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดใด เข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ได้เลย
ปิดต้นฉบับนี้แล้วผมว่าจะไป”หอศิลปะร่วมสมัยเชียงราย”ใหม่เอี่ยม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินแม่ฟ้าหลวง เพื่อไปดูชมชิ้นงานประติมากรรมไม้ไผ่สานมหึมา ซึ่งว่ากันว่า ต้องระดมสล่าหรือช่างไม้ในพื้นที่กว่า 40 คน ทำงานกันตามแบบที่ หวัง เหวิน จื้อ ศิลปินชาวจีนได้ออกแบบขึ้น โดยใช้เวลานานร่วม 3 เดือน..
ศิลปินจากทั่วโลกหลายสิบคนมาเปิดโลกศิลปะถึงที่เชียงรายขนาดนี้ ไม่ตามไปดูไม่ได้แล้วครับ….
สวัสดีปีใหม่ ปี 2567 ครับผม !
……………………………………………