
เชียงรายบ้านเรา ผมว่าน่าจะเป็นแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดคนไทยคนต่างประเทศมาแอ่ว มาเที่ยว มาทัวร์ ได้ทุกฤดูกาล ประมาณว่า เที่ยวได้ทั้งปี…!
อ๋อ !…เรื่องเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเชียงรายหรือครับ ผมว่าเชียงรายบ้านเราสุดเจ๋งเป้ง มีการแทคทีมทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ภาคประชาสังคม เกี่ยวก้อยคล้องแขนเดินลุยดาหน้าปูพรมทุกรูปแบบทั้งฟังก์ชั่น รูทีน จะขาดก็แต่อะเจนด้าเท่านั้น…ถ้าจังหวัดชูธงผลักดัน “การท่องเที่ยวเชียงราย” ให้เป็นวาระแห่งจังหวัด ก็คงจะเริ่ดบวกสามพลัส
เอาน่า !…เศรษฐกิจมวลรวมของบ้านเราเมืองเราจะโหลดอย่างไร ก็ช่างหัวมัน รัฐบาลคุณเศรษฐา ทวีสิน สร.1 คงไม่ปล่อยให้เสียเครดิต “ทักษิณ ชินวัตร” แน่นอน…เอ๊ะ เกี่ยวข้องยังไงกัน !
หน้าที่ของภาคการท่องเที่ยวท้องถิ่นต้องถือคติ “เตรียมให้พร้อม ซ้อมให้ดี ท่าทีต้องมีสง่า” แบบว่ายืมวลีพีอาร์มาใช้ ผมไปจำขี้ปากเขามา ไม่รู้ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการตั้งรับ เตะรุก บุกลุย แบบมืออาชีพหรือไม่ แต่มันก็น่าจะดีกว่าไปนั่งนอนรอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ มิใช่หรือ?
ที่ผมกระเพื่อมเรื่องนี้ ก็เพราะเห็นมหกรรมงาน “ดอกไม้ในสายฝน” ของเทศบาลนครเชียงราย โดยไอเดียคุณรัตนา จงสุทธานามณี ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชยชัย และคุณวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ร่วมกับท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย คาบเกี่ยวงานดอกไม้ในสายฝนต่อด้วยงานวัฒนธรรมสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง บนพื้นที่ “สวนสาธารณะหาดนครเชียงราย” หรืองานของดีตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย ที่เป็นวิชั่นร่วมระหว่างนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย “นายกฯพี่นก” คุณอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ กับอบต.ห้วยไคร้ คุณวรนัน รัตรวิภัคกุล นายก อบต.ห้วยไคร้
จะเป็นบิ๊กโปรเจ็คต์หรือมินิจ๊อบไม่ใช่สาระวิพากษ์ แต่สำหรับประชาชนผู้เสียภาษีอย่างเราๆท่านๆ ผมว่า เป็นความมุ่งมั่นตั้งใจและความพยายามที่จะชูธงเศรษฐกิจชุมชนด้วยการนำจุดขายในท้องถิ่นมาตีปี๊บ อย่างเทศบาลนครเชียงรายก็ชูธงประเด็นเที่ยวเชียงรายได้ทั้งปีทุกฤดูกาล โดยโฟกัสไปที่ดอกไม้เชียงรายสวยๆ อิ่มฉ่ำ มาให้นักท่องเที่ยวได้เซลฟี่และเมมโมรี่เป็นความทรงจำที่ดีๆ ติดตาตรึงใจ
ส่วนงาน “ของดีตำบลห้วยไคร้” ก็ชูธง “ทุเรียนนางนอน” หมอนทองที่มีรสชาติกรอบนอกนุ่มใน ปลูกบนพื้นที่รอยเลื่อนแม่จัน ซึ่งส่งต่อจากสถานการณ์ธรณีพิบัติภัยเวียงหนองหล่มเมื่อพันกว่าปีมาแล้ว นักท่องเที่ยวทาสทุเรียนที่ลิ้นเคยลิ้มสัมผัสกับ “ทุเรียนหมอนทอง” บ้านสันต้นปุย ต.ห้วยไคร้ ก็คงยกนิ้วยืนยันการันตีได้
ผลไม้เอกลักษณ์ชุมชนเชียงรายอีกชนิดหนึ่ง คือ สับปะรด ที่ห้วยไคร้ เกษตรกรได้สับปะรดพันธ์ MD2 จากอินโดนีเซีย และนำมาปลูกในพื้นที่บ้านสันต้นปุย ห้วยไคร้ มีรสชาติกรอบ นุ่ม หวานกลมกล่อม ทั้งลูกทั้งผลตั้งแต่หน่ออากาศยันยอดจุก มันไม่ใช่หวานเฉพาะจุด “นายกฯพี่นก” ท่านไปเห็นก็ชอบใจ ชิมแล้วชิมอีกบอกจะหาทางลุ้นช่วยขยายผลขยับพันธ์ให้เต็มพื้นที่ และประชาสัมพันธ์ผลผลิตเชื่อมโยงสู่ตลาดจากภูธรสู่นครบาลต่อไป ประมาณนี้….
สภาพดินที่เป็นผลจากรอยเลื่อนแม่จันจนมีแร่ธาตุปูพรมเต็มพื้นที่ส่งผลบวกต่อการปลูกผลไม้พื้นถิ่นประจำฤดูกาล มีรสชาติสุดยอด ถูกใจคอผลไม้เพื่อสุขภาพ ผนวกกับศิลปวัฒนธรรมของพี่น้องชาวชาติพันธ์ เครือข่ายในท้องถิ่นก็น่าที่จะนำไปออกแบบและนำไปสู่การพัฒนาการท่องเที่ยวของชุมชนได้
ไหนๆ ฯพณฯ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ประกาศก้องที่เชียงรายว่า เชียงรายเป็นจังหวัด “น่าเที่ยว” แผนงาน โครงการ งบประมาณก็น่าจะขยับตามนโยบาย แบบหัวส่ายหางกระดิก…
จั่วหัวตามสไตล์มีดีต้องตีปี๊บ…มองเห็น คิดบวกแล้วนำมาบอกต่อได้เท่านี้….สวัสดีครับวิญญูชน !