เรามาถึงยุคสมัยของผู้คนคลั่งไคล้กาแฟกันอย่างเต็มบ้านเต็มเมือง แทบทุกหัวระแหงมากไปด้วยร้านกาแฟ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง-สวยบ้างขี้เหร่บ้าง แต่ทุกแห่งที่แวะเข้าไปกลิ่นของอราบีก้าโชยแตะจมูกเหมือนกันหมดแบบไม่ต้องนัดก็เพราะกลิ่นเดียวกัน
ถ้าถามว่ายุคนี้คนกินกาแฟกันแทนอาหารเช้าไปแล้วหรือ ? ก็เปล่านะ !!
วัฒนธรรมการกินมของเราก็ยังน่ารักอยู่เหมือนเดิม มีสำรับกับข้าว มีข้าวนึ่งควันกรุ่นอยู่ทุกครัวเรือน โดยเฉพาะคนชานเมืองที่ยังเหนียวแน่นในเรื่องนี้ จะมีบ้างกับคนในเมืองที่โยกย้ายมาจากที่อื่น จากภาคอื่นที่วัฒนธรรมการกินแต่ละมื้อ โดยเฉพาะมื้อเช้าที่อาจแตกต่างจากคนทางภาคเหนือไปบ้าง
เอากันชัดๆคนปักษ์ใต้ตัวเล็กตัวน้อย ได้กาแฟสักแก้วเล็กๆขนมสักชิ้น ก็สามารถวิ่งไปโรงเรียนฉิวแล้ว อาจจะแตกต่างกันสักนิดคือ เช้าที่โน่นกลิ่นกาแฟกรุ่นด้วยโรบัสต้า ฉุนเฉียวหนักแน่นไม่โชยละมุนนัก เพราะกาแฟพันธุ์นี้ปลูกได้ดีในระดับความสูงจากน้ำทะเลแค่ 500 เมตร ในป่าชุ่มชื้นแถบฝนแปดแดดสี่อย่างระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี…ก็ปลูกกันได้ผลดีแล้ว
ต่างจากอราบีก้าที่เป็นสายพันธุ์ได้รับความนิยมทั่วโลก และให้ผลผลิตที่ดีเมื่อปลูกในพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1000 เมตรขึ้นไป ก็แน่ละแถวเชียงราย เชียงใหม่ นับเป็นพื้นที่ที่มาเป็นอันดับ 1 และมีไม่น้อยที่คอโรบัสต้าได้กลายพันธุ์หันมานิยมอราบีก้าไปโดยไม่รู้ตัว ด้วยเพราะความละมุนที่เป็นเอกลักษณ์ หรือคาเฟอีนที่ต่ำกว่ามาก
จึงไม่แปลกหรอกที่อราบีก้าจะเป็นกาแฟที่ขายได้มากที่สุดในโลกกว่า 80%เลยทีเดียว !!
ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า พื้นที่ดอยช้างเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟอราบีก้าแหล่งใหญ่ที่สุดของไทย ปลูกกว่า 33,000 ไร่บนความสูงระดับกว่า 1,200 เมตร และด้วยอากาศเย็นตลอดปีทำให้ได้กาแฟคุณภาพและมีชื่อเสียงระดับโลก เป็นกาแฟส่งออกที่ได้รับความเชื่อถือจากนานาประเทศ ผลผลิตกาแฟบนดอยช้างปีละ 4,000 ตันเท่ากับครึ่งหนึ่งของกาแฟที่ปลูกได้ทั้งประเทศ และสร้างรายได้เข้าพื้นที่ปีละกว่า 2,000 ล้านบาท
แต่ในขณะที่เราเดินเข้าร้านกาแฟทุกวันนี้…ในขณะที่ร้านกาแฟเราเต็มบ้านเต็มเมืองอย่างนี้ เราอาจแยกแยะร้านกาแฟออกมาได้หลายลักษณะ ร้านสวยร้านหรูลงทุนกันหลายๆล้านบาท กับร้านที่แต่งขรึมๆแต่ดูดีมีดีกรีโน่นนี่จากการคั่ว-การชง…คอกาแฟเลือกไม่ยาก !!
แต่ใช่ว่าจะไม่มีนะ ที่ร้านหรูดูแพงแล้วรสชาดกาแฟดีด้วย !!
ส่วนคอกิ้บกั้บที่เข้าร้านไปถือชาเขียวเย็นสักแก้ว แล้วถ่ายรูปกันสามชั่วโมง ร้านสวยๆประเภทนี้เราจะเห็นลูกค้าแต่งตัวกันสวยๆไปจากบ้าน บางคนมีชุดไปเปลี่ยนเพื่อรูปออกมาชุดไม่ซ้ำ หรือน้องๆที่เอาชุดครุยไปอาศัยมุมสวยๆของร้านเพื่อถ่ายรูปกับเพื่อน กับญาติ ก็น่ารักไปอีกแบบ
ประเภทกาแฟหลักสิบ วิวหลักล้าน ก็ประสบผลสำเร็จในธุรกิจอย่างน่าชื่นชม !!
เพราะเขาเลือกจุดยืนธุรกิจถูกต้องโดนใจ-ไม่มีอะไรต้องว่ากัน แม้คอกาแฟหลายคนไปถึงแล้วคิดอยากกินกาแฟสักแก้วในไร่ชาฉุยฟง-ขอโทษคุณต้องกินชาเท่านั้น เพราะที่นั่นคือ ไร่ชา !!
คอกาแฟ อาจจะแอบบอิจฉา คอชา อยู่บ้างละ !! เพราะพื้นที่จังหวัดเชียงรายของเราขึ้นชื่อว่าเป็น”เมืองหลวงแห่งชาไทย” เพราะในประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกชาอยู่ประมาณ 150,000 ไร่ เฉพาะในเชียงรายปลูกกันกว่า 85,000 ไร่เข้าไปแล้ว กระจายไปเชียงใหม่อีก 55,000 ไร่ ที่เหลืออีกราว 10,000 ไร่ก็กระจายปลูกตามจังหวัดต่างๆในภาคเหนือตอนบนอย่าง แพร่ น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน น่าน ตากข้อมูลทางวิชาการบอกว่าผลผลิตทั้งหมด 100,000 ตันจากสายพันธุ์ที่ปลูก 87% เป็นชาอัสสัมหรือชาพื้นเมือง ส่วนอีก 13%เป็นชาจีน ผลผลิตทั้งหมดเราใช้ในประเทศเกือบ 90% ที่เหลือเป็นการส่งออก
ไม่ว่า กาแฟ หรือ ชา เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เสียแล้ว !!
ในระดับประเทศเราก็ก้าวไปไกลจนนึกไม่ถึง ขณะที่ระดับร้านกาแฟไม่ว่าร้านเล็กร้านน้อย กลายเป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูไปแล้ว เกิดกันแทบทุกสายถนน แทบทุกซอยในชุมชน-หมู่บ้าน…ก่อเกิดวงจรธุรกิจขายเครื่องประกอบร้านกาแฟ อุปกรณ์การชงกาแฟ ทั้งในร้านและในบ้าน
กาแฟแก้วละแพงกว่าข้าวราดแกง 2 อย่างไปแล้ว เด็กๆเลิกเรียนถือชากลับบ้านกันคนละแก้ว…ธุรกิจในวงจรนี้นอกจากฉุดไม่อยู่แล้ว อนาคตนับวันเรืองรองยิ่งกว่าแสงที่สว่างปลายอุโมงค์เสียอีก !!!
—————————