ก้าวขึ้นไปสู่วาระแห่งชาติจนได้ เมื่อกระทรวงมหาดไทยที่รับลูกจากรัฐบาล ประกาศแก้หนี้นอกระบบของประชาชนทั่วไปอย่างจริงจัง โดยจะเปิดให้ผู้เป็นหนี้เหล่านั้นลงทะเบียนกับศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ ทั้งที่อำเภอหรือจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป
“หนี้นอกระบบ” คือ ปัญหาที่ถาวรไปแล้วในสังคมไทย
คนระดับรากหญ้า หรือผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ประกอบการรายย่อยไม่ว่าในระดับหมู่บ้าน ตำบล หรือตรอกซอกซอยของกรุงเทพฯก็ตาม จะชอบไม่ชอบ พอใจไม่พอใจ แต่ก็จำต้องกระโดดลงไปสู่วังวน “หนี้ที่เอารัดเอาเปรียบ” กันทุกรายเมื่อมีความจำเป็น
“จำเป็น” ในที่นี้อาจหมายถึงเพื่อนำเงินกู้นั้นมาลงทุนค้าขายวันต่อวัน เดือนต่อเดือน หรือจำต้องกู้เพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาในครัวเรือน ตั้งแต่ค่าการศึกษาลูกหลานที่หมุนไม่ทัน หรือจากการเป็นหนี้ในระบบจนเกินเพดาน จำเป็นต้องหันไปพึ่งหนี้นอกระบบมาแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆก่อน
ที่หนักกว่านั้นคืออ้างความจำเป็นกับตัวเอง ไปกู้มาเพื่อใช้หนี้พนัน จะพนันบอลหรืออะไรก็แล้วแต่…แม้จะเป็นส่วนน้อยแต่ใช่ว่าจะไม่มี !!
กู้ง่าย เพราะไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน, จ่ายคืนยาก เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นผู้มีรายได้น้อยย่อมชักหน้าไม่ถึงหลังเป็นทุนอยู่แล้ว หรือจ่ายคืนเงินกู้กันไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เบาบางเพียงเงินต้นแต่ดอกเบี้ยโหดยังไม่กระดิก ถ้าหากถึงวันที่จ่ายคืนไม่ไหวจริงๆ เกิดการหลบลี้หนีหน้าขึ้นมา มาตรการโหดจากผู้เก็บหนี้ทวงดอกก็เกิดทันที…เป็นข่าวกันมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันข่าวแล้ว !!
ในครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก…การแก้ไขหนี้ทั้งในและนอกระบบเคยดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมมาแล้วในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่เปิดให้มีการขึ้นทะเบียนคนจนตั้งแต่ปลายปี 2546 พร้อมสัญญาว่าภายใน 6 ปี คนจนจะหมดไปจากประเทศไทย ???
ครั้งต่อมาเป็นการประกาศแก้หนี้นอกระบบ เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2548 ที่สร้างความฮือฮามากคือ เปิดให้ลูกหนี้แจ้งรายละเอียดว่า เป็นหนี้ใคร ? โดยรัฐบาลสัญญาว่าจะเชิญตัวเจ้าหนี้มาเจรจาหาทางแก้ปัญหาให้…แต่ปรากฏว่าลูกหนี้ส่วนหนึ่งปฏิเสธ ไม่ยอมแจ้งชื่อเจ้าหนี้ต่อเจ้าหน้าที่ เพราะเกี่ยวพันกับสวัสดิภาพความปลอดภัย รวมทั้งเป็นเรื่องระบบอุปถัมภ์ในระดับท้องถิ่นที่แยกกันไม่ออก
“ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งคือ คนที่เป็นนายทุนเงินให้กู้เกี่ยวโยงกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เกี่ยวข้องกับนักการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่น หรือเป็นสปอนเซอร์ หรือกลุ่มคนที่มีผลประโยชน์ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองทั้งสิ้น…“นี่เป็นความเห็นที่ดูจะเป็นจริงที่สุดจากผู้สันทัดกรณีในเรื่องนี้
อย่างไรก็ดีตั้งแต่วันที่ 1 ธันวามคมนี้เป็นต้นไป ต้องเริ่มลงทะเบียนกันละนะ สำหรับผู้มีหนี้และต้องการความช่วยเหลือ-แก้ไข โดยรัฐบาลจะกำหนดเป็นนโยบายแก้ปัญหานี้อย่างยั่งยืน ดังนี้
- ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย
- ไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ โดยจัดให้มี “คำปรึกษาปัญหาหนี้นอกระบบ” ให้ลูกหนี้ร้องทุกข์และขอคำปรึกษา ณ ธนาคารออมสิน และธกส.ทั่วประเทศ
- เพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อในระบบให้กับลูกหนี้นอกระบบ และประชาชนทั่วไป
- ฟื้นฟูศักยภาพของลูกหนี้ เช่น การหารายได้ ฝึกอบรมอาชีพ สร้างวินัยการเงิน
- สร้างภูมิคุ้มกัน สนับสนุนการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในระยะยาว ผ่านหน่วยงานรัฐ และองค์กรการเงินชุมชน
ในด้านกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปแล้วทุกจังหวัด นายอำเภอทุกอำเภอ เพื่อตั้ง “ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ” ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และประชาสัมพันธ์ให้ลูกหนี้นอกระบบในพื้นที่ ที่ประสงค์ขอรับการช่วยเหลือ หรือให้ทางราชการแก้ปัญหา ไปลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง หรือจะเข้าเว็บไซต์กระทรวงมหาดไทย ก็แล้วแต่จะสะดวกทางไหน
ปัญหาโลกแตกนี้…พูดง่ายๆคือมันเกิดจากความสมัครใจของผู้กู้กับผู้ให้กู้ ที่ต้องเป็นนอกระบบเพราะเขาเข้าไม่ถึงแหล่งเงินในระบบ และที่เป็นที่รู้กันทั่วไปคือ ผู้ให้กู้ หรือเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ ส่วนมากจะรู้จักกับเจ้าหน้าที่รัฐ-ตำรวจ-คนมีสี ในพื้นที่, หรือบางพื้นที่ “คนพวกนี้ก็คือเจ้าหนี้ผู้ให้กู้” ทั้งที่เปิดเผยและอยู่เบื้องหลังการปล่อยกู้ดอกเบี้ยโหด รวมไปถึงการทวงหนี้แบบโหดๆนั่นเอง
เมื่อเป็นดังนี้…เสียงวิจารณ์ที่หนาหูต่อนโยบายรัฐบาลที่จะเริ่มอีกคราวนี้ ความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมจะมีมากน้อยแค่ไหนหนอ !!??
~~~~~~~~~~~~~~~~~