ปักหมุดการศึกษา น.ส.พ.เชียงรายนิวส์ เดือนกรกฎาคม 2566 เดือนนี้ประเทศไทยคงได้ลุ้นหน้าตาของรัฐบาลใหม่ว่า พรรคก้าวไกลซึ่งได้คะแนนเสียงจำนวนส.ส.เข้าสภามากที่สุด จะสามารถเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล “พิธา 1”สำเร็จหรือไม่? อย่างไร?
คำถามใหม่ที่ดังอื้ออึงขึ้นมาในช่วงนี้ คือ นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 แห่งประเทศไทยจะชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือไม่ ? กลายเป็นคำถามฮอทฮิตที่สร้างความงุนงง ฉงนฉงายขยายความลงไปในมวลหมู่ประชาชนคนเลือกผู้แทนของเขาเข้าไปทำหน้าที่นิติบัญญัติในสภาผู้แทนราษฎร โดยอัตโนมัติ
ไฉนเส้นทางสู่การเป็นนายกรัฐมนตรีของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จึงมีขวากหนามหลากหลายมิติสลับซับซ้อน ซึ่งกลไกกลเกมนี้ ประชาชนทั้งประเทศส่งต่อให้พรรคการเมืองและส.ส.ทั้ง 500 คน ที่กกต.ประกาศผลรับรองแล้ว ทำหน้าที่ติดตาม“ดีลลับ” และหมากกลการเมืองจากแกนนำของพรรคการเมืองทุกพรรคแบบตาไม่กระพริบ ทั้งพรรคแถวหนึ่งแถวสองและสามแหละครับ ล้วน แล้วแต่ทรงอิทธิพลชี้ชะตาบ้านเมืองในยุค “สังคมไทยเปลี่ยนไป ประเทศไทยเปลี่ยนแปลง” ทั้งสิ้น
พรรคการเมืองระดับ “เซียนเหยียบเมฆ” อีกพรรคหนึ่งที่ต้องพูดถึงในโมเม้นต์นี้ก็คือ “พรรคเพื่อไทย”ซึ่งชื่อชั้นและสมาชิกระดับพระบวชนานเจ้าอาวาสหลายพรรษาเก๋าเกมกว่าเยอะ และมีเสียงส.ส.ในมือรองจากพรรคก้าวไกลเพียงแค่ 10 เสียง มีกุนซือหลักแดนไกลเป็นมันสมองพร้อมเครือข่ายโยงใยไปในเกือบทุกพรรค เรียกว่าวินาทีนี้พรรคเพื่อไทย เล่นตาม “กติกา” คู่ขนานไปกับ “กติกึ๋น” เป๊ะ!
คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดทว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และแกนนำพรรคก้าวไกลไม่ผวารีบแก้เกมในวันชูจักกะแร้เลือกนายกรัฐมนตรี มัวแต่วิ่งรอกหา FC เป็นกำแพง…มีสิทธิ “วืด” สูง
ประชาชนเจ้าของเสียงสวรรค์อย่างแท้จริงอย่างเราๆท่านๆก็คงได้แต่มองและลุ้นตามว่า ทิศทางการเมืองไทยจะไปจบ ณ จุดใด เพียงแค่ลุ้นใครจะมานั่งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ระทึกแล้ว
ที่ต้องจั่วหัวกว้างๆในองคาพยพและการกระเพื่อมของกลเกมการเมืองไทยในช่วง “กะระกะดากระปลกกระเปลี้ย”นี้ก็เพราะ รูปโฉมของเสนาบดีกระทรวงศึกษาธิการก็ย่อมต้องมากับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ทิศทางการศึกษาไทยจะปักหมุดไปทางใดก็ต้องอ่านจากนโยบายพรรคและวิสัยทัศน์ของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่
บรรทัดนี้…ผมขออนุญาตเขียนถึงสิ่งที่ผมพานพบในบัญชรปักหมุดการศึกษานี้ว่า ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมาผมใช้เวลาว่างในชีวิตประจำวันทุกวันตระเวนทำแอพพลิเคชั่น TikTok ในสโลแกนประจำโปรไฟล์ว่า “สะพานบุญ เสบียงธรรม ระฆังทาน” โดยคอนเท้นท์หลักที่ผมโฟกัสไว้ จะเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 18 อำเภอในพื้นที่เชียงราย วัดวาอารามหลายร้อยวัดที่เด่นสง่างามซึ่งจังหวัดเชียงรายได้ชื่อว่ามีอัตลักษณ์ทางพุทธศิลป์ที่งดงามตามแบบฉบับของล้านนาไทย
นอกจากนั้นก็ติดตามปฏิทินงานสำคัญๆจากประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย และจากสมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงรายที่มีคุณโชติศิริ ดารายน หัวหน้ากองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์เชียงรายนิวส์ เป็นนายกสมาคมฯ โดยพักหลังนี้จังหวัดเชียงรายกำลังบูมเรื่อง Thailand Bienale 2023 ซึ่งเชียงรายเป็นเจ้าภาพ ผมก็ถือโอกาสเยี่ยมเยือนทำคอนเท้นท์ TikTok บ้านศิลปินเชียงราย ซึ่งมีอะไรดีๆชวนให้ตีปี๊บโชว์แขกบ้านแขกเมืองหลากหลายประเภทงานศิลปะ
คอนเท้นท์ TikTok เปิดประตูเมืองเชียงราย ถึงวันนี้น่าจะเกือบ 500 ชิ้นงาน ในชื่อโปรไฟล์ “เหนือเมฆ” และก็จะยิ่งเติบโตเพิ่มจำนวนไปทุกวัน สิ่งที่ผมในฐานะครีเอทเตอร์สัมผัสได้ก็คือ “อัตลักษณ์ล้านนาและคุณค่าเกียรติภูมิเชียงราย” ที่ผู้ติดตามงาน TikTok “เหนือเมฆ”จากหลายจังหวัดทั่วประเทศต่างออกปากชื่นชมความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าอยู่ น่าเยือน ของเชียงราย อัตลักษณ์วัดวาอารามสวยงามสะดุดตาสะดุดใจหลายแห่งก็สวยงามอลังการมลังมเลืองติดอันดับโลก จนการท่องเที่ยวเชียงรายกำหนดปฏิทินท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนเชียงรายยาวเหยียดทั้งปี
นี่คือความภาคภูมิใจของชาวเชียงรายทุกเจนเนอเรชั่น ทุกวัย ทุกเพศสภาพ ที่ต้องช่วยกันร่วมไม้ร่วมมือสืบสาน พัฒนา และอนุรักษ์รักษา ตลอดจนพัฒนาให้ยั่งยืนถาวรขจรขจาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทแลนด์มาร์ค จุดเช็คอิน วัฒนธรรมประเพณีวิถีชีวิตประจำถิ่น ตลอดจนวัดวาอารามที่มีศาสนสถานโดดเด่นอัตลักษณ์พุทธศิลป์ตามแบบฉบับล้านนาไทยที่สืบทอดกันมากว่า 1,000 ปี
บทบาทของการ “สืบสาน อนุรักษ์และพัฒนา”มรดกเชียงรายนี่แหละ ที่จะปล่อยให้ท้องถิ่นหรือหน่วยงานรับผิดชอบอย่างเดียวไม่ได้ “คน” ต้องเป็นพลังบวกที่สำคัญในระยะยาวที่จะต้องออกมาแสดงบทบาทปกปักรักษามรดกเชียงราย ต้นทุนรากเหง้าทางวิถีล้านนาและสังคมไทยให้คงอยู่ สง่างาม น่าภาคภูมิใจสืบไป
อย่าให้มันตกหล่นหรือค่อยๆเสื่อมสลายไป ด้วยเหตุผลที่ผมไม่อยากจะเชื่อว่า เป็นเพราะคนรุ่นใหม่โลกใหม่ไม่สนใจรากเหง้าบรรพบุรุษ บรรพชนที่ก่อร่างสร้างชาติให้อยู่เย็นเป็นสุขมายาวนานหลายชั่วอายุคน มีพื้นที่ให้ทำมาหากิน มีพื้นที่ให้พักพิงพำนักอาศัย ตลอดจนมีพื้นที่ให้บางคนบางกลุ่มออกมายืน “บ่น จ่ม ด่า” เกียรติภูมิประเทศชาติบ้านเมืองของตนเอง
“การศึกษา” นี่แหละครับเป็นปัจจัยและกลไกสำคัญที่จะบ่มเพาะต้นกล้าของแผ่นดินเชียงรายให้ “สืบสาน อนุรักษ์และพัฒนา”มรดกเชียงรายให้ถาวรยั่งยืน
วันนี้ ในชั่วโมงเร่งด่วนที่มีกระแสวิพากษ์เห็นต่างอึงอล อลวน เต็มบ้านเต็มเมืองเต็มเพจโซเชี่ยล คงต้องพึ่งพาบารมีท่านพ่อเมือง พุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดได้ทำงาน agenda “หลักสูตรท้องถิ่น” ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงรายเคยชงและชูธงไว้ เพื่อจังหวัดเชียงรายก่อนที่ท่านจะเกษียณอายุราชการในอีกสามสี่เดือนข้างหน้านี้ได้เดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม …เชียงรายน่าจะเป็นจังหวัดต้นแบบที่มีการระดมทุกภาคส่วนและชูธงวิชั่นพ่อเมือง ทบทวนการสืบสาน อนุรักษ์และพัฒนา มรดกศิลปวัฒนธรรมล้านนาไทยในเชียงรายได้อย่างโดนตาโดนใจประชาชนคนทั้งประเทศ
ด้วยความเคารพและความหวังที่ฝากไว้ครับท่าน !
