นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 เป็นวันหยุดยาว คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายแล้ว ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นตามมา ดังนั้นเพื่อให้การจัดเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขรองรับช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ จึงได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 จังหวัดเชียงราย ขึ้น ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นศูนย์สั่งการและประสานงาน มอบให้โรงพยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขทุกแห่งเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร วัสดุ เวชภัณฑ์ และยานพาหนะอย่างเพียงพอ ให้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานฝ่ายปกครองและท้องถิ่น รายงานข้อมูลอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ (Admit) ร่วมกับที่ทำการปกครองอำเภอ และสถานีตำรวจภูธร วิเคราะห์ข้อมูลการบาดเจ็บและส่งต่อให้กับศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด เพื่อวางแนวทางป้องกันและลดอุบัติเหตุในทุกพื้นที่ พร้อมนี้ได้สั่งการแนวทางการเตรียมความพร้อมการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 โดยให้หน่วยงานสาธารณสุขปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
ดังนี้ 1.เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขในทุกอำเภอ ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2565 – 5 มกราคม 2566 2.เน้นมาตรการที่กำหนดในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง 3.ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดในกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งรายงานข้อมูลในระบบที่กำหนดทุกราย 4.เตรียมความพร้อมทีมปฏิบัติการทางการแพทย์เพื่อการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุโดยเน้นการเข้าถึงที่รวดเร็ว ภายใต้มาตรการความปลอดภัยของรถพยาบาลและผู้ปฏิบัติงาน ในรูปแบบ New Normal เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 5.บริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยรายงานข้อมูล ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุทางถนนตามแนวทางที่กำหนดสอบสวนการบาดเจ็บตามเกณฑ์ที่กรมควบคุมโรคกำหนด วิเคราะห์ข้อมูล และส่งต่อข้อมูลให้กับศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 6.พิจารณาค่าตอบแทนสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 โดยกำหนดค่าตอบแทนไม่เกิน 2 เท่า ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทนแนบท้ายข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุขฯ 7.เฝ้าระวังเหตุการณ์ในพื้นที่ เช่น ทางวิทยุสื่อสาร โซเซียลมีเดีย และรายงานข้อมูลกรณีเกิดสาธารณภัยที่เข้าเกณฑ์รายงานเหตุการณ์สำคัญและฉุกเฉิน (DCIRs) ต่อผู้บังคับบัญชาตามลาดับชั้น 8.ให้ผู้บริหารอยู่ในพื้นที่เพื่อรองรับกรณีมีเหตุการณ์สำคัญในพื้นที่
นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขดังกล่าว รวมถึงการจัดแผนรองรับอุบัติเหตุหมู่ในโรงพยาบาล จะช่วยลดการบาดเจ็บ สูญเสียชีวิต ประชาชนมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น และขอฝากความปรารถนาดีในปีใหม่นี้ “ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม” เพื่อ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ”
