
ชาวไร่ยาสูบเวอร์จิเนีย 6 จังหวัดภาคเหนือ นัดดีเดย์ บุกศูนย์ดำรงธรรม 6 จังหวัด ยื่นหนังสือถึง รมต. คลัง เหตุ ยสท. กดราคารับซื้อ ไม่คุ้มค่าแรงงาน-ปุ๋ยที่สูงขึ้น ซ้ำตัดโควตาลงอีก 25% ทำชาวไร่น้ำตาตก วอนคลังฯ ช่วยเหลือด่วน ทบทวนราคาใบยาใหม่ให้สะท้อนต้นทุนจริง

นายกิตติทัศน์ ผาทอง ตัวแทนสมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบ จ.เชียงราย กล่าวหลังจากนำชาวไร่กว่า 200 คน เข้ายื่นหนังสือถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังผ่านศูนย์ดำรงธรรม จ. เชียงราย เพื่อขอให้ช่วยเหลือจากปัญหาต้นทุนการผลิตใบยาสูบที่เพิ่มสูงขึ้น และการลดโควตารับซื้อใบยาพันธุ์เวอร์จิเนียสำหรับฤดูกาลผลิต 2565/66 ว่า

“ตัวแทนชาวไร่ยาสูบพันธุ์เวอร์จิเนียกว่า 1,200 คนในภาคเหนือ นัดรวมตัวกันหน้าศูนย์ดำรงธรรมของแต่ละจังหวัด เพื่อยื่นหนังสือถึง รมต. คลังขอให้ช่วยเหลือชาวไร่และผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 1 หมื่นคนที่ต้องเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนปัจจัยการผลิตยาสูบ เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ค่าไฟฟ้า ค่าฟืน และค่าแรงงานเพิ่มสูงขึ้นกว่า 60 % แต่ราคารับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทยไม่ได้ปรับขึ้นให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงเลย ราคารับซื้อใบยาของ ยสท. ในปัจจุบันใช้มาเกือบ 10 ปีแล้ว หาก ยสท. ยังยืนยันจะใช้ราคาเดิม ชาวไร่และผู้บ่มฯ ก็ไม่สามารถปลูกใบยาสูบและประกอบอาชีพต่อไปได้”

การปลูกและบ่มใบยาพันธุ์เวอร์จิเนียในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน แพร่ น่าน และพะเยา เป็นอาชีพท้องถิ่นที่ทำต่อเนื่องกันมาตลอดกว่า 60 ปี แต่ละปีมีผลผลิตใบยาประมาณ 10 ล้านกิโลกรัมส่งขายให้กับ ยสท. สร้างรายได้ให้ท้องถิ่นรวม 1,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 30,000 บาทต่อครอบครัว แต่จากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตยาสูบหลายครั้งตั้งแต่ปี 2560 ทำให้ ยสท. ปรับลดโควตารับซื้อใบยาพันธ์เวอร์จิเนียลง 50% เป็นเวลา 4 ปีติดต่อกันและจะประกาศลดโควตาลงอีก 25% สำหรับฤดูกาลผลิต 2565/66 ที่จะถึงนี้ ทำให้โควตาใบยาพันธ์เวอร์จิเนียถูกลดลงไปกว่า 56%

