ขอแสดงความยินดีกับ “คณะกรรมการสมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์ เชียงราย” ชุดใหม่ (ปีบริหาร 2565-2567) ที่มี โชติศิริ ดารายน (บก.เชียงรายนิวส์) เป็นนายกสมาคมฯ ต่ออีกวาระที่ได้เปิดตัวไปแล้ว เมื่อ 20 ก.ค.’65 ที่ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเต็ล แอนด์ คอนเวนชั่น ท่ามกลางผู้มีเกียรติหลายอาชีพ พร้อมด้วยคณะกรรมการชุดใหม่และเก่าที่มากด้วยความสามารถและฝีมือเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว ที่อาสาเข้ามาทำงานด้วยความเสียสละเพื่อชาวเชียงรายด้วยดีเสมอมาและตลอดไป
————————————————–
หันมาดูการเมืองและเศรษฐกิจประเทศไทยเราบ้าง หลายคนคงได้ยิน หรือได้เห็นบนสื่อต่างๆ กับแบนเนอร์ “ยุทธการ เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ไปแล้ว โดยเฉพาะคอการเมืองทั้งหลาย เมื่อ 19-22 ก.ค.’65 ที่ผ่านมา มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยการ กล่าวหาในความล้มเหลวการบริหารประเทศในทุกมิติ ของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฯเป็นครั้งสุดท้ายก่อนครบวาระ 4 ปีในปี’66 ของพรรคฝ่ายค้าน 7 พรรค นำทีมโดย พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล เป็นหัวขบวน ซึ่งเป็นไปอย่างออกรส ออกชาติ อย่างดุเด็ด เผ็ดมัน ตื่นเต้น เร้าอารณ์ ถึงพริกถึงขิงของคอการเมือง มีการนำเสนอข้อมูลสนับสนุนในการอภิปรายอย่างเป็นระบบ…โดยมุ่งเป้าถล่ม นายกฯเป็นหลัก….สารพัดสารพัน สรรหาคำพูดมา ถากถาง เย้ยหยัน ดูเบา ยกตัวอย่าง เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาเสนอ อย่างมีอารมณ์ร่วม ทั้ง 4 วัน 4 คืน
การอภิปรายของฝ่ายค้านครั้งนี้ เชื่อว่าจะมีผลสะเทือนต่อรัฐบาลแน่ๆ หากผู้ติดตามตลอดจะพบว่าเหมือนกับการนั่งดูซีรีส์ ได้ทั้งความรู้ แง่คิด ข้อมูลเก่า ใหม่ ที่แปลก นึกไม่ถึง ไม่เคยปรากฏเป็นข่าวมาก่อน ผสมผเสกันไปชวนติดตามในบทบาท ลีลาของ นักการเมืองว่า บางคน บางกลุ่ม บางพวกที่มาเล่นการเมืองมีวัตถุประสงค์อะไร เราได้ทราบ เล่ห์เหลี่ยม กลเม็ดเด็ดพราย อีแอบ ตีหน้าซื่อ ของบางคน บางกลุ่ม ในธุรกิจการเมือง อย่างล่อนจ้อน….ในการบริหาร “งบประมาณแผ่นดินก้อนมหาศาล” ในการจัดซื้อ จัดจ้างในแต่ละปี ที่เป็นภาษีอากรของประชาชนว่าเงินส่วนหนึ่งหลุดหายไปเข้ากระเป๋าใคร กลุ่มใด…!!? ในฝ่ายรัฐบาล ที่ ฝ่ายค้านเรียกว่า “ รัฐบาลใช้อำนาจเผด็จการ ” ซึ่งมีที่มาจากรัฐธรรมนูญที่มีกติกาที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมาใช้ในการบริหาร ตลอดการใช้เทคโนโลยี”Pegasus Spyware” มาใช้ในการ ตรวจสอบติดตามล้วงข้อมูล นักศึกษา นักวิชาการ แลประชาชนผู้เห็นต่างทางการเมืองผ่านมือถือด้วย เพื่อรักษาอำนาจ ตามที่ฝ่ายค้านเปิดข้อมูลในสภาอย่างที่ปรากฏไปแล้ว ตามข้อกล่าวหา จริงเท็จอย่างไรต้องไปพิสูจน์กัน… แม้แต่การเลือกตั้งครั้งหน้ารัฐบาลมีแนวคิดจะเอา 500 หาร เพื่อให้ได้จำนวน ส.ส. และ ส.ส.บัญชีรายชื่อก็ไม่เว้นตามที่เป็นข่าว หรือจะกลับมาหาร 100 อีกครั้งก็อาจเป็นได้
จึงมีข้อสรุปว่า ไม่ว่าฝ่ายใดเป็นรัฐบาล ฝ่ายใดเป็นฝ่ายค้าน ก็จะมีพฤติการณ์ไม่ต่างกัน เหมือนการเล่นละคร…เพราะต้องมองฝ่ายตรงข้ามเป็นศรัตรูทางการเมือง ต้องคอยจับผิดซึ่งกันและกัน แล้วอ้างประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักพิง ซึ่งเป็นเรื่องดีมีผู้ตรวจสอบรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ จริงเท็จ แค่ไหนประชาชนผู้เลือกตั้งจะเป็นคนตัดสินในครั้งต่อไป…. แท้จริงแล้ว “นักการเมือง”..บางคน บางกลุ่ม บางก๊วน ไม่ว่าระดับใด มันก็เป็นเช่นนี้นี่เอง…ในกลุ่มคนดี…มักจะมีคนที่คิดชั่วแฝงตัวอยู่ด้วยเสมอ….
ผลการอภิปรายและการลงมติเป็นอย่างไร ..? คงทราบกันแล้ว….เนื่องจากรัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภา มากกว่าฝ่ายค้านอย่างมากหลายสิบเสียง… แม้ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่น่าชื่นชม มีข้อมูลมานำเสนอประกอบการอภิปรายที่ดีน่าเชื่อถือ มีที่มา มีแหล่งอ้างอิงและเป็นจริงมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถชนะเสียงโหวตของฝ่ายรัฐบาลได้ เพราะรัฐบาลเขามีพร้อม ทุกสรรพสิ่งที่เป็นปัจจัยจะมาช่วยให้พรรคพวกตนเองให้รอดพ้น จากศึกอภิปรายในครั้งนี้ได้…แต่อย่างไรก็ตาม การอภิปรายครั้งนี้ก็ทำให้ผู้นำรัฐบาล และพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลเสียงรังวัด เกิดภาพลบ ไปมาก อันเนื่องมาจากการตอบคำถามของรัฐมนตรีของบางคนบางพรรคร่วมหลายๆคนไม่ชัดเจน ตอบคำถามของฝ่ายค้านไม่ได้ตรงประเด็น และ เลี่ยงที่จะตอบ หรือตอบไม่ตรงคำถาม ถามม้า..ตอบไก่.. ไปโน่นเลย.. ฝ่ายค้านจะถามและกล่าวหามาอย่างไร…?? …..ผู้ถูกกล่าวหาบางคนก็จะตอบ…อย่างที่ทีมงานเตรียมมาให้แล้ว…ตามโพย หรือสคริ๊ปต์ …ยัดเยียดบางเรื่องให้ฟัง แม้จะมีกราฟิกประกอบบ้างบนจอ ก็เป็นคนละเรื่องที่พูด…บางคนก็ตอบคำถามแบบพูดจาโอ้อวดผลงานสารพัด แต่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงกับวิถีชาวบ้านชาวเมืองที่กำลังประสบอยู่ในทุกๆ วันอย่างปัจจุบัน…เหมือนกับผู้ฟังที่เป็นประชาชนอยู่กันคนละประเทศ …และก็ฉวยโอกาสโชว์ผลงานและหาเสียงคะแนนนิยมซะเลย…
สุดท้าย..แม้รัฐบาลจะได้รับเสียงโหวตจากพรรคร่วม…จนชนะฝ่ายค้านตามคาดไปได้อีกครั้งก็ตาม… เนื่องเพราะมีเสียงข้างมากอยู่แล้ว อีกทั้งบางคนที่ร่วมโหวตจากพรรคอื่น ๆ ก็เชื่อกันว่ามีสิ่งล่อใจให้สนับสนุน… เชื่อว่าผลการโหวตครั้งนี้จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงในพรรครัฐบาลแน่ ๆ (อีกอย่าง 23 ส.ค.’65 นี้ อาจมีอะไรน่าตื่นเต้นโปรดติดตาม) ในขณะเดียวกันด้านข้างๆรัฐสภาขณะที่มีการอภิปรายอยู่นั้น นักศึกษาและประชาชนบางกลุ่ม และสถานีข่าวสื่อออนไลน์ 4 สถานี จัดกิจกรรม “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน” ควบคู่กันไปด้วย พร้อมกับลงมติไม่ไว้วางใจจากเสียงของประชาชนที่แท้จริง ทั้งต่างจังหวัดและในกรุงเทพฯพบว่า ภาคประชาชนต่างจังหวัด จาก 6 ภูมิภาค 139 จุด 34 จังหวัด มีผู้ไม่ไว้วางใจรัฐบาล 99 % ไว้วางใจ 1 % ส่วนด้านสื่อออนไลน์ มีผู้ไม่ไว้วางใจ 89 % ไว้วางใจ 11 % (ข้อมูล: สุทิน คลังแสง อภิปรายสรุป 22 ก.ค.65 21.00 น.) ..นี่คือเสียงสะท้อนจากประชาชนที่แท้จริงว่าเขาคิดอะไร… ต้องการอะไรจากรัฐบาลชุดนี้ …. อย่างไรก็ตามแม้รัฐบาลจะชนะจากการโหวตทุกคน …แต่ผลจากการอภิปรายครั้งนี้ ก็ทำเอารัฐบาลร่อแร่ บาดเจ็บ และจะเป็นแผลเรื้อรัง…ไปอีกยาว…จนกว่าจะเลือกตั้งครั้งหน้า……แล้ววันนั้น…ประชาชนเขาจะร่วมกันพิพากษาพรรคการเมืองที่เคยร่วมรัฐบาลชุดนี้อีกครั้งในคูหาเลือกตั้งว่าจะเป็นอย่างไร..!!
