
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารสินธานีคอมแพล็ก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดกิจกรรมระดมสมอง แสดงความเห็นเพื่อให้เชียงรายเป็นเมือง Wellness City ที่มีอัตลักษณ์ และพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวผลักดันเมืองเชียงรายให้เป็นเมืองน่าอยู่ ปลอดภัย สุขภาพดี เดินทางสะดวก ข้อมูลชัดเจน ค้าขายมั่งคั่ง และเป็นเมืองที่มี เสน่ห์เฉพาะตัว ให้คนอยากมาเที่ยว โดยมี คุณพร้อมพร จินดาวงศ์ เนตรหาญ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย คุณฐาปนา บุณยประวิตร นายกสมาคมการผังเมืองไทย เลขานุการกฎบัตรไทย คุณพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ ประธานเครือข่าย คุณอภิพันธ์ ภู่ภักดี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย คุณอนุรัตน์ อินทร และหลายภาคส่วน ทั้งภาคธุรกิจ ภาคประชาชน ภาครัฐ ตลอดจนภาคการเมือง ร่วมระดมสมอง แสดงความเห็น ในฐานะ “ปลุกพลัง คนเชียงราย” เพื่อเปลี่ยนเมืองเชียงราย ยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวเชียงราย ซึ่งภาคนักธุรกิจเชียงรายได้จับมือร่วมกัน โดยการสนับสนุนจากผู้บริหารภาครัฐของจังหวัดเชียงราย

หลายเมืองในประเทศไทย ต่างมีแนวคิดที่จะจัดตั้งบริษัทพัฒนาเมือง เพื่อปฏิรูป พัฒนาเมืองตามเสียงของ ประชาชนของเมืองนั้นๆ โดยมีภาครัฐของเมืองเป็นแรงสนับสนุน ให้เกิดการขับเคลื่อนที่เป็นเอกภาพ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของจังหวัดและยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งหลายจังหวัดได้เริ่มต้นและดำเนินการไปแล้วบางส่วน เช่น การวางแผนแม่บทพัฒนาเมืองระยะยาว การลงทุนตั้งบริษัทต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการขนส่งมวลชนในจังหวัด หรือจัดตั้งบริษัทเพื่อลงทุนพัฒนา Solution เพื่อแก้ไขปัญหาหรือตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของเมือง ซึ่งการพัฒนาการท่องเที่ยวควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพของเมืองเป็นประเด็นสำคัญที่หน่วยงานทุกภาคส่วนของแต่ละเมืองต้องให้ความร่วมมือกัน และ Wellness City เป็นTrend ใหม่ ที่หลายเมืองในโลกนี้ต้องการช่วงชิงเพื่อเป็นผู้นำสู่การเติบโตของเมืองอย่างยั่งยืน

สำหรับจังหวัดเชียงรายถือว่าเป็นเมืองที่ติดอันดับจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจ โดยจุดขายของเชียงรายนั้น มีความพร้อมหลากหลายเช่น ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพลิดเพลินกับวัฒนธรรมชนเผ่าที่หลากหลาย พร้อมชื่นชมธรรมชาติที่ตรึงตราตามพื้นที่ยอดดอยต่างๆ เชียงรายมีภูมิประเทศที่แปลกกว่าเมืองอื่นๆ ด้วย 7 สายน้ำ 35 ขุนเขา ที่อุดมด้วยทะเลหมอกบนยอดดอยสูง อีกทั้งจังหวัดเชียงรายยังเป็นแหล่งเพาะปลูกชา กาแฟ และเกษตรอินทรีย์ ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยอีกด้วย

อย่างไรก็ตามจังหวัดเชียงรายต้องสร้างจุดขายที่แตกต่างจากเมืองอื่น เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม เครื่องดื่ม ชา กาแฟ ซึ่งยังไม่สามารถดึงจุดเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ออกมาได้ อีกทั้งระบบคมนาคมด้านขนส่งยังไม่เป็นที่แพร่หลายและไม่สะดวกในการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยว จึงต้องช่วยกันระดมแสดงความคิดเห็น พร้อมนำจุดแข็งที่เมืองมีอยู่แล้วมาพัฒนาบูรณาการผสมผสาน และวางแผนเป็นแผนแม่บทในการพัฒนายกระดับคุณภาพของเมืองให้มีเสน่ห์อย่างยั่งยืนต่อไป

