

11 มิ.ย. 65 นายบัญชา เชาวรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการและตลาดวิชาการเครือข่ายภาคประชาสังคมสนับสนุนการควบคุมการบริโภคยาสูบระดับจังหวัด ณ โรงแรมทีคการ์เด้นสปารีสอร์ท อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมี ผศ.ดร.ลักขณา เติมศิริกุลชัย ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนากำลังคนด้านการควบคุมยาสูบสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายแพทย์ชัย กฤติยาภิชาติกุล ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการควบคุมยาสูบสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และนายมนตรี เกษมสุข ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนากำลังคนด้านการควบคุมยาสูบ ภาคเหนือตอนบน พร้อมกันนี้ร่วมกับภาคีเครือข่ายจากจาก 4 จังหวัดได้แก่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่พะเยา และจังหวัดแม่ฮ่องสอนกว่า 200 คน ร่วมระดมสร้างพลังเครือข่ายระหว่างกันใน 4 จังหวัด

นอกจากนั้นการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ภาคประชาสังคม จึงได้มีรวมตัวกัน ในนามของ“เครือข่ายภาคประชาสังคมพร้อมทั้งยังเป็นการสนับสนุนการควบคุมการบริ โภคยาสูบ เครือข่าย 4 จังหวัดภาคเหนือ” ภายใต้การสนับสนุนการก่อตั้งและขับเคลื่อนงานของ ศูนย์พัฒนาศักยภาพกำลังคนด้านยาสูบ หรือ พศย.ในการ ที่จะเริ่มก่อตั้งและขับเคลื่อนงานของเครือข่ายภาคประชาสังคมทำกิจกรรมเพื่อสนับสนุนหรือเสริมช่องว่างในการดำเนินงานขององค์กรภาครัฐตามยุทธศาสตร์การควบคุมการบริ โภคยาสูบของชาติในระดับจังหวัด ที่มี คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบเป็นแกนกลางในการทำงานในระดับจังหวัดโดยมีวัตุประสงค์การดำเนินงานเพื่อการสร้างพลังเครือข่ายภาคประชาสังคมสนับสนุนให้กลไกในระบบการควบคุมการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบให้มีประสิทธิภาพอีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้มีกลไกภาคประชาสังคม สนับสนุนการควบคุมยาสูบในพื้นที่ทุกระดับ ในการขับเคลื่อนงาน 3 ยุทธศาสตร์ คือสร้างคน



โดยการดึงจิตอาสา คนที่มีศักยภาพจากทุกภาคส่วนในพื้นที่มาร่วมกันทำงานควบคุมยาสูบ พร้อมกับการเชื่อมเครือข่าย โดยเชื่อมทุกกลุ่มพลังในพื้นที่ระดับเขต จังหวัดอำเภอตำบล มาเป็นพลังในการทำงานควบคุมยาสูบร่วมกันและการขยายศักยภาพชุมชน โดยการดำเนินการทั้งในชุมชนจริง ในระดับหมู่บ้านตำบล อำเภอ ให้มีศักยภาพในการเอาชนะปัญหาที่เกิดขึ้นได้ซึ่งการดำเนินการในระยะที่ 1 มีเป้าหมายขับเคลื่อนในพื้นที่ 4 จังหวัด 20 อำเภอ 60 ตำบล ในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แม่ฮ่องสอนโดยขณะนี้ผลการดำเนินการ เมื่อครบ 1 ปี เกิดภาพการเคลื่อนงานโดยภาคประชาสังคมหรือประชาชนครอบคลุมในพื้นที่ 4 จังหวัด 18 อำเภอ 54 ตำบล จำนวน 254 คนได้ลุกขึ้นมาทำงานและขยายงานในชุมชน อันจะส่งผลให้เกิดการทำงานอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนของการทำงานในระดับพื้นที่ อย่างเข้าใจปัญหาที่จะกระทบต่อชุมชน โดยไม่ต้องรอภาคราชการที่อาจมีขีดจำกัดจากภาวะเร่งด่วนอื่นๆเพียงมิติเดียว และมีเครือข่ายมีเครือข่ายระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล ที่สามารถจะเสริมพลังการขับเคลื่อนขององค์กรตามยุทธศาสตร์ของภาครัฐหน่วยราชการเมื่อการทำงานโครงการ ได้ผ่านระยะที่ 1 แล้ว เครือข่ายจึงได้ร่วมกัน จัดการประชุม“สรุปผลการดำเนินการ และ จัดตลาดนัดวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินการควบคุมการบริโภคยาสูบของชุมชนเครือข่ายของ 4 จังหวัด” เพื่อนำผลการสรุปและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไปพัฒนาเสริมความแข็งแกร่งของกระบวนการทำงานเครือข่าย เพื่อสังคมไทยในภาพรวมต่อไป



