เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 64 ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เปิดกิจกรรมเสวนา และนิทรรศการเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับวิสาหกิจชุมชนพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ณ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับพืชพลังงาน ถือเป็นหนึ่งในนโยบายพลังงานเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่ช่วยให้ชุมชนมีรายได้จากการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าและลดภาระค่าใช้จ่าย มีรายได้จากการจำหน่ายวัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างความเข้มแข็งในชุมชน ลดการย้ายถิ่นฐานของแรงงาน เกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในชุมชน ซึ่งภายในงานมีการเสวนาสร้างความรู้ความเข้าใจ “โรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก” จากผู้เกี่ยวข้อง อาทิ โรงไฟฟ้าชุมชนในพื้นที่ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเขต1 (เชียงใหม่) โดยมีประชาชนผู้ปลูกหญ้าเนเปียร์ ซึ่งใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้า และวิสากิจชุมชนในพื้นที่อำเภอขุนตาล อำเภอเทิง และอำเภอพญาเม็งราย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 200 คน
ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้ประกาศผลการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) แล้ว จำนวนทั้งสิ้น 43 โครงการ แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล 16 โครงการ และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 27 โครงการ โดยในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ผ่านการคัดเลือก จำนวน 2 โครงการ ปริมาณไฟฟ้าเสนอขายรวม 5.85 MW โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากจะเป็นมิติหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในชุมชน ทั้งการส่งเสริมพลังงานทดแทนตามเหมาะสมของพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการต่อยอดการทำเกษตรรูปแบบใหม่ที่เกษตรกรเองสามารถเป็นส่วนหนึ่งของโรงไฟฟ้าระดับชุมชน เป้าหมายสำคัญของโครงการ คือ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชน มีรายได้มั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สำหรับ “โครงการสื่อสารสร้างการรับรู้ตามนโยบายส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก” พพ. จัดทำขึ้นเพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับโรงไฟฟ้าชุมชน พร้อมทั้งสร้างการมีส่วนร่วม ในการเข้าถึงข้อมูลโครงการได้ครอบคลุมทุกมิติให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นชุมชน วิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยการจะจัดกิจกรรม จำนวน 5 ครั้ง ครอบคลุม 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ