▶️เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 นายวุฒิชัย เสาวโกมุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการประชุม หารือสรุปประเด็นปัญหาและอุปสรรคการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงรายและแนวทางการขับเคลื่อนให้หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพิเศษชายแดนและความพร้อมการลงทุนหลังการเปิดประเทศ พลิกฟื้นเศรษฐกิจจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19)
โดยมี 1.)นโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ.2561-2580) ด้านการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษในร่างแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 (ปี 2566-2570) โดยมีเป้าหมายคือ การปรับโครงสร้างภาคการผลิตและบริการสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม, การพัฒนาสำหรับโลกยุคใหม่, การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเป็นธรรม, การเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน และการเสริมสร้างความสามารถของประเทศในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยงภายใต้บริบทโลกใหม่
2.)ความก้าวหน้าการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนและระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ โดยมีองค์ประกอบในการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคโดยใช้โอกาสจากอาเซียน ลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน คือ กำหนดขอบเขตพื้นที่ SEZ, ให้สิทธิประโยชน์, ให้บริการศูนย์(OSS) ใช้แรงงานต่างด้าว, พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน-ด่าน และการจัดหาพื้นที่พัฒนา เพื่อจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ชายแดนที่มีศักยภาพ หรือเรียกว่า SEZ
สำหรับการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย โดยมีเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย ประกอบด้วย 21 ตำบล ใน 3 อำเภอ ขอบเขตพื้นที่ 572,629 ไร่ ศักยภาพและโอกาสการพัฒนา คือ ฐานการท่องเที่ยว แหล่งผลิตอาหาร สินค้าเกษตร ศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ
ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างโอกาส การประกอบธุรกิจ สร้างแรงสร้างรายได้ รองรับแรงงานที่ต้องย้ายกลับภูมิลำเนา และการขยายตัวของภาคบริการและที่อยู่อาศัย ช่วยกระตุ้นการบริโภคและเศรษฐกิจในพื้นที่ ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน ให้ได้รับบริการด้านสังคม โดยเฉพาะระบบบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพและครอบคลุมทั่วถึงประชาชนมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณ สุธรรม เกื้อบุญส่ง
