คอลัมน์ » ธรรมของคุณย่า

ธรรมของคุณย่า

9 ธันวาคม 2021
805   0

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จได้ด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจอันเป็นโทษแล้ว พูดอยู่ก็ตาม ทำอยู่ก็ตาม ทุกข์ย่อมไปตามบุคคลนั้นเหมือนล้อหมุนไปตามรอยเท้าโคผู้ลากอยู่

ถ้าบุคคลมีใจผ่องใส พูดอยู่ก็ตาม ทำอยู่ก็ตาม สุขย่อมไปตามบุคคลนั้น เหมือนเงามีปกติไปตามฉะนั้น

อนึ่ง ใจคือมโนธาตุ ซึ่งสั่งสมมวลความรู้และอารมณ์ที่บันทึกไว้จากทุกชาติ

จิต คือการทำงานของใจ เป็นอาการต่างๆ โดยมีวิญญาณรู้อาการอยู่เป็นมโนภาพบ้าง มโนคำนึงบ้าง การเสวยอารมณ์บ้าง เป็นอาทิ ดังนี้

วันนี้จะนำเรื่องของคุณย่ามาเล่าในนี้ค่ะ เมื่อไม่นานมานี้เอง ญาติธรรมของผู้เล่าได้ไปนอนเฝ้าญาติซึ่งสูงอายุมากแล้ว ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าท่านรอเวลาร่วงไปตามกาลของท่านด้วยวัยเก้าสิบกว่าของท่าน แม้ไม่ต้องป่วยไข้ แต่ด้วยวัยนี้ก็พร้อมจะจากไปได้ทุกเมื่อ เธอเล่าให้ฟังว่าการไปนอนค้างด้วยครั้งนี้ได้ธรรมะกับท่านเป็นอย่างมาก จากการเพ้อเกือบตลอดเวลาของท่าน แม้ท่านจะมีปกติสวดมนต์ไหว้พระและภาวนาพุทโธอยู่เสมอ แต่เรื่องที่ท่านเพ้อแต่ละเรื่องนั้นบอกนิมิตของคนใกล้ตายได้เลยที่เดียวว่าถ้าจิตสุดท้ายตกลงที่เรื่องใด นั่นคือ สิ่งที่จะนำท่านไปสู่ภพใหม่ของท่านนั่นเอง

พระท่านกล่าวเอาไว้ว่า คนเราจะยังตายไม่ได้ถ้าจิตยังไม่เข้าภวังค์ แล้วการเข้าภวังค์ของจิตนั้นหมายถึงว่า จิตของผู้อยู่ในขณะนั้นจะไม่สามารถบังคับตัวเองได้ จะมีอาการเลื่อนลอย จับต้นชนปลายอะไรไม่ได้ เรียกว่าจิตในขณะนั้นกำลังท่องเที่ยวไปในความทรงจำที่ผ่านมาของตัวเองอยู่ อาการเพ้อของผู้ใกล้ตายนั้นบอกถึงสิ่งที่ถูกบันทึกไว้แล้วในจิตของเขานั่นเอง ในบทเรียนว่าด้วยเรื่องจิตของพระอภิธรรมที่ผู้เล่าถูกเพื่อนลากเข้าไปเรียนด้วยหนสองหนนั้นเผอิญเป็นเรื่องของจิตพอดี ก็พอจะได้รู้แบบงูๆปลาๆว่า จิตก่อนตายนั้นจะผ่านเข้ามาในมโนนึกเป็นดวงๆไป เป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้นั้นได้กระทำไว้แล้ว และได้ถูกเครื่องบันทึกของจิตบันทึกเอาไว้ ดวงหนึ่งผ่านเข้ามาเป็นกุศล ก็จะเป็นเรื่องดีๆมีความเบาของจิต ถ้าจิตดวงนี้เป็นจิตสุดท้ายที่ผ่านเข้ามาแล้วตายลงตรงนี้พอดี ตรงนี้ก็จะเป็นจุติจิตคือจิตที่จะพาเขาไปในภพใหม่ ภพใหม่ของเขาก็จะมีสุคติเป็นที่ไป แต่ถ้ายังไม่ตายจิตดวงต่อไปผ่านเข้ามาแล้วเกิดเป็นอกุศลล่ะ แล้วตกตายตอนนี้พอดี นี่จุติจิตของเขาก็จะเป็นอกุศล ทุคติย่อมเป็นที่หมาย นี่ความสำคัญของเครื่องบันทึกในจิตที่สามารถกำหนดภพใหม่ให้กับผู้นั้นได้ เรียกว่ากรรมนิมิต

ในเรื่องธรรมะของคุณย่านี้ ปกติของคุณย่าคือท่านจัดว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่ปกติของคนคือก็จะมีผิดพลาด พลั้งเผลอไปบ้าง โดยตั้งใจบ้าง ไม่ตั้งใจบ้าง รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง แต่สิ่งเหล่านี้เมื่อกระทำแล้วมันคือกรรมทั้งสิ้น กรรม เป็นคำกลางๆ มีทั้งดีและไม่ดี ล้วนมีวิบากคือการเสวยผลคือต้องรับผลของกรรมทั้งสิ้น เรื่องที่คุณย่าเพ้อ มีทั้งคนที่ตายไปแล้วมาหา มาชวนคุยบ้าง ชวนไปเที่ยวบ้าง บางครั้งก็พูดถึงการเดินทางบ้าง บางขณะก็เหมือนจะรู้สึกตัวก็จะรีบท่องพุทโธๆ บางครั้งพูดถึงไปนรกบ้าง ไปสวรรค์บ้าง นี่ขนาดว่าท่านมีปกติสวดมนต์ไหว้พระ เจริญภาวนาพุทโธด้วยยังเพ้อวุ่นวายไปหมด ได้ถึงขนาดนี้ ฟังแล้วก็อดเอามาคิดถึงตัวเองไม่ได้ว่า ถ้าเราไม่รีบเร่งความเพียรคงไม่ต่างจากคุณย่าแน่

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานว่า อัปปะมาเถนะ สัมปาเทถะ ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด เราเองแม้มั่นใจในตัวเอง แต่จิตในภวังค์นั้นย่อมไม่แน่นอนเป็นแน่แท้ หากคติยังไม่แน่นอนเข้าถึงพระอริยะเจ้าตั้งแต่เบื้องต้นคือพระโสดาบันเป๋นต้นไป ภวังคจิตนั้นไซร้ย่อมลากถูไปได้ทุกที่ละหนา ตึงอยากชวนว่า เราเริ่มมาดูใจตัวเองอย่างผู้ฝึกจิตกันเถิด หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้ ระหว่างฝึกดูและรู้อยู่แค่นี้พอ ดูว่าง่าย แต่สำหรับผู้ฝึกใหม่แค่นาทีเดียวเถอะยังเอาแทบไม่อยู่ นี่ละ คือการฝึกจิตให้รู้อยู่กับตัว ใหม่ๆ คงต้องสู้กับอารมณ์ต่างๆผ่านเข้ามามากมาย แค่ตะให้รู้อยู่แค่ลมหายใจเข้าออกยังเอาจะไม่อยู่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเสียใจว่าแค่นี้ก็ทำไม่ได้ เพราะครูบาอาจารย์ หลวงปู่ หลวงพ่อที่บรรลุธรรมจนเป็นที่รู้จักและเคารพนับถือว่าเป็นผู้ทรงคุณทั้งหลายก็ล้วนต่อสู้กับอารมณ์แบบนี้มาแล้วทั้งสิ้น ขอแค่มีใจสู้เท่านั้น



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า