คอลัมน์ » สรุปข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากแบบสอบถาม (ต่อ)

สรุปข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากแบบสอบถาม (ต่อ)

9 ตุลาคม 2021
655   0

การสมัครรับเลือกตั้งของผู้สนใจในระบอบประชาธิปไตยตั้งแต่ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็นต้นมานั้น  ถือว่าเป็นการเข้ามา แบบทางตรง ผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ที่เป็นพ่อค้าและนักธุรกิจมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเข้ามาสู่ระบบรัฐสภาของพ่อค้าและนักธุรกิจ เกิดขึ้นจากความสนใจการเมืองและมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างชื่อเสียงแก่วงศ์ตระกูลและต้องการมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศ เนื่องจากประเทศไทยขานรับแนวทางการพัฒนาประเทศตามกระแสการพัฒนาแบบทุนนิยม ตามคำแนะนำของสหรัฐอเมริกาในระยะหลัง พ.ศ. 2500 ที่รัฐบาลทหารครองอำนาจก็ได้ปูพื้นฐานเศรษฐกิจและเน้นธุรกิจส่งออก ระบบธุรกิจค่อย ๆ เติบโตขึ้น ประกอบกับระบบการเมืองระบอบประชาธิปไตยของไทยมีการพัฒนาขึ้นอีกระดับหนึ่ง  จึงสนับสนุนให้พ่อค้าและนักธุรกิจหันมาสนใจและแสวงหาอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจร่วมกัน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นต้นมา ที่ได้เปิดโอกาสให้ภาครัฐและเอกชนได้มีการประสานประโยชน์กันมากขึ้น ทั้งในแง่การลงทุนและการขยายการตลาดไปสู่นานาชาติ พ่อค้าและนักธุรกิจอาศัยกลุ่มนักการเมืองในระบบรัฐสภาให้คุ้มครองและพิทักษ์ผลประโยชน์ในด้านกฎหมาย  ตลอดจนการประสานผลประโยชน์ในการประมูลโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ๆ จากงบประมาณแผ่นดินของประเทศ  ส่วนพ่อค้าและนักธุรกิจที่เข้ามาสู่ระบบรัฐสภาในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงมีลักษณะเป็นดาบสองคม คือ เป็นผู้นำในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า ขณะเดียวกันก็อาจเป็นผู้ฉวยโอกาสสร้างความมั่งคั่งร่วมมือกับนักการเมืองและข้าราชการฉ้อราษฎรบังหลวงอย่างไม่มีขีดจำกัด

สำหรับความสัมพันธ์ แบบทางอ้อม นั้น พ่อค้าและนักธุรกิจสนับสนุนบุคคลใดบุคคลหนึ่งเข้าสมัครรับเลือกตั้งเพื่อเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในระบบรัฐสภา ตลอดจนการให้การสนับสนุนพรรคการเมือง หรือที่เรียกอย่างเลี่ยง ๆ ว่า “การบริจาค”  การอุดหนุนพรรคการเมืองของพ่อค้าและนักธุรกิจเป็นไปตามอุดมคติทางการเมืองที่ให้เงินบริจาคเพียงหวังต้องการสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย โดยมิได้หวังผลในทางธุรกิจ แต่เมื่อระบบทุนนิยมเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ให้การบริจาคมีความต้องการ “หวังผล” ทางธุรกิจมากขึ้น     พ่อค้าและนักธุรกิจที่มีกิจการใหญ่โตและมีเงินทุนสูง จะให้การสนับสนุนพรรคการเมืองใหญ่ ๆ ที่คาดว่าจะได้รับเลือกตั้งเข้ามามากจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ การสนับสนุนด้านเงินทองให้แก่พรรคการเมืองเพื่อการแข่งขันส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินการทางการเมืองเพิ่มสูงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ส่งผลกระทบต่อวิธีการเลือกตั้งที่มุ่งจะเอาชนะคู่แข่งขัน จึงปรากฏเสมอว่าการระดมทุนเพื่อการเลือกตั้งแต่ละครั้งพรรคการเมืองต่าง ๆ ได้เพิ่มทุนมหาศาลในการเลือกตั้ง จากยอดเงินลงทุนของพรรคการเมืองได้ถ่ายเทไปสู่กระบวนการในการเลือกตั้ง ตั้งแต่การลงทุน ค่าโฆษณา ค่าเวลาสถานีวิทยุ โทรทัศน์ ค่าแผ่นป้าย ค่าอาหาร ค่ารถ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ  ล้วนเป็นการใช้เงินทั้งสิ้น พรรคการเมืองใดที่มีทุนมากก็จะสามารถช่วยผู้สมัครได้มาก นอกจากผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีให้ทุนอุดหนุนพรรคและใช้เงินส่วนตัวเพื่อให้ตัวเองได้รับเลือกตั้ง ในลักษณะเช่นนี้จึงพบเสมอว่าทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งแต่ละครั้งจะเป็นการผสมผสานทั้งแหล่งทุนทางอ้อมและทางตรง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของสนามการเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่

เนื่องจากการเมืองในระบอบประชาธิปไตยได้เปิดโอกาสให้ผู้สนใจการเมืองสามารถตั้งพรรคการเมือง หรือร่วมพรรคการเมืองและเลือกผู้แทนราษฎรได้อย่างเสรี แต่การเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมายังคงพบว่ามีการทุจริต ซื้อสิทธิ ขายเสียง ด้วยวิธีการต่างๆ ที่ซับซ้อนมากขึ้น การกระทำดังกล่าวนับเป็นอุปสรรคปัญหาของอุดมการณ์ทางการเมืองและกระบวนการประชาธิปไตยทั้ง ๆ ที่มีการเตรียมการป้องกันแล้ว จุดอ่อนที่มีความเปราะบางอยู่ที่การรับรู้ของประชาชน  ซึ่งมักจะถูกครอบงำโดยระบบการจัดตั้งหัวคะแนนที่มีอำนาจและอิทธิพลในท้องถิ่นในการใช้กลเม็ดทุกวิถีทางเพื่อหวังเพียงจำนวนคะแนนเสียงเท่านั้น จากจุดเปราะบางนี้ผู้ที่ตกเป็นเครื่องมือ คือ   ประ-ชาชน รวมทั้งข้าราชการบางกลุ่มที่หวังเพียงทรัพย์สินเงินทองเพียงจำนวนเล็กน้อย แต่ผลที่ได้รับคือได้ผู้แทนราษฎรที่ไม่มีคุณภาพ ไม่มีอุดมการณ์ทางการเมือง การเข้ามาสู่ระบบรัฐสภาเพียงต้องการอำนาจทางการเมืองเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือพรรคพวกเท่านั้น ตัวอย่างที่สำคัญ ๆ คือ การประมูลโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ หรือโครงการสัมปทานตลอดจนโครงการพัฒนาที่ใช้อำนาจและโอกาสให้แก่บริษัทในเครือญาติและพรรคพวกโดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายต่อประเทศชาติ

ความสัมพันธ์ดังกล่าวได้สร้างวงจรวิกฤตที่นับวันจะขยายผลไปสู่ระดับที่อันตรายมากขึ้น  หากไม่สกัดกั้นการทุ่มเงินของนักลงทุนทางการเมือง และไม่มีมาตรการที่เข้มงวดกวดขันอย่างจริงจังแล้วจะทำให้พ่อค้า นักธุรกิจ นายทุนท้องถิ่น รวมทั้งเจ้าพ่อก้าวเข้ามาสู่ระบบรัฐสภามากขึ้น  เพราะอำนาจเงินสามารถซื้อที่นั่งในรัฐสภาได้  ผลกระทบเช่นนี้จะเป็นภาพที่ประชาชนเสื่อมศรัทธา ดังปรากฎเป็นตัวอย่างเสมอจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในแต่ละครั้ง

ในส่วนที่พ่อค้าและนักธุรกิจกับระบบรัฐสภาที่เป็นผลดีต่อประเทศชาตินั้น พบว่า พ่อค้าและนักธุรกิจมีคุณประโยชน์ที่เป็นผู้นำทางเศรษฐกิจที่สำคัญต่อสังคมในยามที่ประเทศต้องการผู้มีวิสัยทัศน์และเครือข่ายธุรกิจระดับนานาชาติที่จะเสริมสร้างการลงทุนและขยายธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อแข่งขันกับประเทศคู่ค้าคู่ขายได้ ลำพังนักการเมืองที่มีเพียงอุดมการณ์ทางการเมือง นักกฎหมาย นักวิชาการไม่อาจนำประเทศให้ก้าวหน้าภายใต้ระบบทุนนิยมโลกได้ คุณประโยชน์ของพ่อค้าและนักธุรกิจที่อยู่ทั้งภายนอกระบบรัฐสภาและภายในรัฐสภาไม่ว่าจะเป็นวุฒิสมาชิกหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรย่อมสร้างเสริมอำนาจทางเศรษฐกิจได้อย่างมีคุณภาพ

5. ผลการศึกษา 

5.1  จุดเด่นของการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบบรัฐสภาของพ่อค้าและนักธุรกิจสามารถสรุปได้ดังนี้

5.1.1    มีวิสัยทัศน์กว้างไกลเพราะมีประสบการณ์ทางการค้า กลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล สามารถมองเห็นประเด็นการพัฒนาประเทศในเชิงการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจได้ดีกว่านักการเมืองมืออาชีพที่มุ่งแต่แข่งขันและชิงกันเข้ามาเป็นรัฐบาล กลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทางการค้า ย่อมเข้าใจกระบวนการการเงินการคลัง และการบริหารราชการที่จะเอื้อให้ประเทศสามารถยืนอยู่ในแนวหน้าและเป็นผู้นำด้านการผลิต การส่งออก  แข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ดีกว่านักการเมืองที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น หรือนักการเมืองมืออาชีพที่ไม่เข้าใจกลไกการตลาดโลก

5.1.2     เป็นผู้เสียสละ  มีเป้าหมายในการทำงานและทำงานเป็นระบบ กลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจเป็นผู้เสียสละ อุทิศเวลา และทุ่มเทให้งานการเมือง นักธุรกิจจำนวนไม่น้อยที่เสียสละจนต้องสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัว เพื่อจะได้มีโอกาสเข้ามารับใช้ประเทศชาติ นักธุรกิจเหล่านี้อาจไม่ผ่านการแข่งขันคัดเลือกเข้ามาสู่ระบบรัฐสภา แต่ก็ยังคงเป็นผู้นำทางความคิดและสนับสนุนการเมืองนอกสภาในลักษณะเชิงสร้างสรรค์และเป็นห่วงเป็นใยประเทศชาติ มีความสามารถในการทำงานเป็นระบบ มีเป้าหมาย  มีทิศทางที่แน่นอน โดยเฉพาะนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการเงินการคลัง จะเป็นผู้ที่มีความรอบรู้มากกว่านักการเมืองธรรมดาที่ไม่กล้าแสดงความสามารถเพราะไม่มีทั้งประสบการณ์และความรอบรู้อย่างลึกซึ้ง

5.1.3   มีศักยภาพในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ กลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศย่อมจะทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจและการเมืองเดินเคียงข้างกันไปได้ ทั้งในด้านเกียรติภูมิก็เป็นที่ยอมรับในฝีมือและความสามารถในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ โดยกลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจจะมีศักยภาพและเครือข่ายทางธุรกิจที่จะสามารถสร้างกรอบความสัมพันธ์ที่จะรักษาผลประโยชน์ของชาติ ไม่เป็นการ  ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ขณะเดียวกันกลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจก็มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับสถานการณ์ให้สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที นอกจากนี้ยังมีความรู้และทันเกมการค้าระหว่างประเทศหากจะถูกเสียเปรียบทำให้สามารถรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติได้  ขณะที่นักการเมืองที่เป็นนักกฎหมายหรือนักการเมืองท้องถิ่นอาจไม่เข้าใจระบบการค้าเสรีของตลาดโลก  และภูมิภาคได้ดีเพียงพอ

5.1.4   ใฝ่หาความรู้ มีการศึกษา มีอุดมการณ์และความสามารถ กลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจเป็นกลุ่มที่มีความรู้ มีการศึกษา ทำให้กลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจเป็นชนชั้นนำทั้งเชิงวิชาการและมีคุณภาพ  ต่างกับกลุ่มพ่อค้านายทุนท้องถิ่นที่มักจะแสวงหาผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มพวกพ้องและต้องการเพียงการเอาตัวรอดระดับบุคคลและพรรคการเมืองของตนเท่านั้น สำหรับพ่อค้าและนักธุรกิจที่เป็นชนชั้นผู้นำย่อมเป็นที่ยอมรับในแวดวงการค้าทั้งในและต่างประเทศ การใช้ฐานธุรกิจของตนจะเสริมสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธา ไม่เฉพาะในหมู่ประชาชน แต่จะรวมถึงสายตาของชาวต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุน  เพราะเชื่อว่าจะสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจได้ ตรงกันข้ามกับพ่อค้านายทุนที่ไม่มีผลงานก็ไม่เป็นที่ยอมรับในที่สุดก็จะไม่มีโอกาสกลับเข้ามาอีก

5.1.5    มีความโปร่งใส ทันสมัย และมีแนวคิดแบบเสรีนิยม กลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจที่จะเข้ามาสู่ระบบรัฐสภาจะต้องเปิดเผยโปร่งใส  สามารถตรวจสอบและถอดถอนได้ ลงโทษได้ ผู้ที่เข้ามาจึงน่าจะเป็นผู้ที่มีความตั้งใจและอุทิศตนให้เป็นประโยชน์ เพราะการวางกรอบจะสามารถตรวจสอบพฤติกรรมได้ จึงจะได้พ่อค้าและนักธุรกิจที่มีคุณธรรม มีเจตนาที่ดีต่อประเทศชาติ ระบบการเมืองจะได้คนดีมีฝีมือทำงานได้ พ่อค้าและนักธุรกิจในปัจจุบันมีความคิดทันสมัย เข้าใจระบบเศรษฐกิจการเงินการธนาคาร เมื่อเข้ามาบริหารประเทศได้นำเอาแนวคิดใหม่มาใช้ ซึ่งแตกต่างกันกับนักการเมืองอาชีพที่เล่นการเมืองแบบดั้งเดิม

บรรดาพ่อค้าและนักธุรกิจที่น่าจะเป็นจุดด้อย อันเป็นส่วนหนึ่งของผลกระทบต่อระบบรัฐสภา ก็คือกลุ่มพ่อค้านักธุรกิจเหล่านี้ควรจะเรียกเป็น “พ่อค้านายทุน” มากกว่าจะเรียกว่า  “ธุรกิจ”เพราะวิสัยทัศน์ของ“นายทุน”นั้น จะแคบมากกว่าและส่วนใหญ่จะประกอบด้วย กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจระดับท้องถิ่นที่มาจากผู้รับเหมาก่อสร้าง พ่อค้าไม้ พ่อค้าโรงสี พ่อค้าโรงเลื่อย รวมทั้งนายทุนท้องถิ่นที่สร้างฐานะทางเศรษฐกิจจากการค้าการขาย ตลอดจนสร้างอิทธิพลและไต่เต้าจากกิจกรรมการค้าระดับจังหวัด หรืออาจมีเครือข่ายในระดับภูมิภาค พ่อค้าและนักธุรกิจเหล่านี้มีจุดประสงค์ “เล่นการเมือง” เพื่ออาศัยอำนาจทางการเมืองสร้างอิทธิพลและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองและพรรคพวกมากกว่าที่จะมีสายตายาวไกลไปถึงการพัฒนาประเทศในระดับมหัพภาค แต่ต้องการพันธมิตรทางการค้า และหวังจะได้ประโยชน์จากการเมืองเป็นปัจจัยสำคัญ กลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจซึ่งจะเรียกต่อไปในส่วนนี้ว่าเป็น “พ่อค้านายทุน” จะสร้างปัญหาและถือว่าเป็นจุดอ่อนของการที่มีกลุ่มพ่อค้าและนักธุรกิจเข้ามาสู่ระบบรัฐสภา

5.2 จุดด้อยของการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบบรัฐสภาของพ่อค้าและนักธุรกิจ

5.2.1  สร้างระบบผูกขาดทางธุรกิจและฐานอำนาจ กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจและนายทุนหน้าใหม่ ที่ได้มีโอกาสเข้ามาสู่ระบบรัฐสภาจะเป็นกลุ่มที่ประกอบธุรกิจมาก่อนการรับการเลือกตั้ง จะพยายามสร้างเครือข่ายโยงใยร่วมกันทั้งกลุ่ม ผลประโยชน์ที่เป็นพ่อค้านายทุนด้วยกัน และสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มนักการเมืองมืออาชีพ ก่อให้เกิดระบบผูกขาดทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยแก่ตนเองหรือพรรคพวกภายหลัง โดยกลุ่มพ่อค้านักธุรกิจและนายทุนหน้าใหม่จะลงทุนทางการเมืองสูงเพราะต้องแข่งขันกับนักการเมืองมืออาชีพและนักการเมืองนายทุนที่มีอิทธิพลเก่า การเข้ามาสู่ระบบรัฐสภาไม่ใช่เพียงเพื่อเกียรติยศ สร้างชื่อเสียง แต่จะหวังผลระยะยาวที่จะใช้อำนาจและโอกาสสร้างฐานอำนาจทางเศรษฐกิจ ปกป้องผลประโยชน์รวมทั้งเรียกทุนคืนและสะสมทุนใหม่ และสร้างฐานะทางเศรษฐกิจให้ตนเองและพรรคพวก ไม่มีความจริงใจต่ออุดมการณ์ทางการเมืองอย่างแท้จริง บางคนเพียงต้องการแค่สร้างพันธ-มิตรทางการค้าร่วมกับนักการเมือง แม้จะไม่ได้รับเลือกตั้งก็ถือว่ายังคุ้ม เพราะสามารถสนับสนุนพรรคการเมือง  รวมทั้งนักการเมืองได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปสู่รัฐสภา เพียงแต่วนเวียนอยู่กับกลุ่มนักการเมือง

5.2.2  มุ่งผลประโยชน์ส่วนตัวและสร้างความมั่งคั่งให้ตนเองและพวกพ้อง กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจและนายทุนมุ่งหวังที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ที่พรรคและกลุ่มนักการเมืองจัดสรรแบ่งปันผลประโยชน์ให้ ต้องการผูกขาดธุรกิจให้ตกแก่หมู่คณะ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องเหมาะสม หรือเพียงต้องการส่วนแบ่งจากกลุ่มอิทธิพลเก่าที่มีเหนือกว่า พ่อค้านายทุนจึงมุ่งเน้นความมั่งคั่งแก่ตนเป็นสำคัญไม่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลไม่เข้าใจกลไกทางเศรษฐกิจการเมืองไม่สนใจการเปลี่ยนแปลงและกระแสเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบการเมืองของประเทศ ข้อจำกัดด้านวิสัยทัศน์และประสบการณ์ขีดวงให้พ่อค้านายทุนการเมืองมีแนวคิดภายใต้กรอบความรู้ความสามารถระดับท้องถิ่น ซึ่งน่าจะเหมาะที่จะบริหารงานระดับสุขาภิบาล หรือ   เทศบาล แต่เพราะความมั่งคั่งร่ำรวยจึงสามารถก้าวเข้ามาสู่เวทีการเมืองระดับชาติได้ ด้วยความช่วยเหลือของพรรคการเมือง หรือนักการเมืองหน้าเก่าที่ “อุ้ม” เข้าสู่รัฐสภา เมื่อมีโอกาสในเวทีการเมืองระดับชาติจึงตกอยู่ภายใต้อิทธิพลกลุ่มที่จะโน้มน้าวให้เชื่อและนำไปในทิศทางใดก็ได้ที่พรรคพวก  หรือกลุ่มต้องการ กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจและนายทุนที่สามารถเข้ามาสู่ระบบรัฐสภาได้ มิใช่จะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากรัฐบาล เป็นการได้สัมปทานหรือสิทธิต่าง ๆ แต่กลุ่ม  พ่อค้านายทุนเหล่านี้จะทำหน้าที่ส่งผ่านไปยังกลุ่มผลประโยชน์ของตน จึงจะเห็นอยู่เสมอว่าผู้ได้รับสัมปทานเป็นคนนอกไม่ใช่ตัวนักการเมืองแต่เป็นญาติ พี่น้อง เพื่อนของนักการเมือง การที่ทำเช่นนี้เป็นการตอบแทนบุญคุณ เป็นการใช้หนี้และเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ให้พรรคพวกได้ประโยชน์ ซึ่งแน่นอนว่าจะมีผลกระทบต่อโครงสร้างทางการเมือง ความชอบธรรม และพัฒนาการเมืองของไทยต่อไป

5.2.3   เป็นกลุ่มอิทธิพลที่ขาดอุดมการณ์ทางการเมือง  กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจและนายทุนที่มีประวัติเป็นเจ้าพ่อ เป็นผู้มีอิทธิพลที่มาจากท้องถิ่นต่างจังหวัด แม้ว่าจะเป็นผู้มั่งคั่งแต่เป็นเพราะอำนาจอิทธิพลจาก ธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ย่อมก่อให้เกิดรอยด่างในระบบรัฐสภา การเข้ามาสู่ระบบรัฐสภาก็เพื่อสร้างภาพใหม่ให้ตนเองหรือต้องการล้างภาพพจน์เก่าที่สังคมและประชาชนทั่วไปรับรู้ นอกจากนี้พ่อค้านายทุนที่เป็นเจ้าพ่อและเจ้าของธุรกิจผิดกฎหมายยังต้องการอำนาจทางการเมืองเพื่อคุ้มครองธุรกิจของตนเองให้สามารถดำเนินการต่อไปโดยใช้อำนาจรัฐคุ้มครอง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่น่ากลัวต่อสังคมและการเมือง กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจและนายทุนที่ขาดอุดมการณ์ทางการเมือง จะมองเห็นประโยชน์จากการเข้าไปมีอำนาจและเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็เพื่อจะได้เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่ได้จัดตั้งรัฐบาลโอกาสการเป็นรัฐบาลจะเป็นโอกาสทองของกลุ่มพ่อค้านายทุนมากกว่าเป็นฝ่ายค้าน เพราะข้าราช-การประจำย่อมสวามิภักดิ์ต่อรัฐบาลเสมอ

5.2.4   ทำงานฉ้อฉลและหลอกลวง กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจและนายทุนที่อาจได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี โดยเฉพาะในกระทรวงที่ต้องบริหารเงินงบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก การบริหารงานมีสิทธิในการมอบสัมปทานหรือถ่ายสิทธิไปสู่เอกชน บางครั้งอาจขาดทุนถ้าบริหารงานไม่ดี แต่โดยภาพรวมแล้วถ้าเป็นการให้สัมปทานไปโดยไม่รอบคอบว่าผลประโยชน์ที่รัฐพึงจะได้รับกับเอกชนจะได้รับเป็นอย่างไร รัฐในความหมายนี้จะหมายถึงการสาธารณูปโภคที่รัฐพึงจะให้บริการประชาชน โดยความเป็นจริงแล้วระเบียบกฎหมายได้ระบุชัดเจนอยู่แล้วที่รัฐจะเป็นผู้ดำเนินการเองไม่ได้ ดังนั้น การจัดซื้อจัดจ้างโดยใช้เงินงบประมาณแผ่นดินเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่เอกชน พ่อค้า นักลงทุน นักธุรกิจ ต่างจ้องมอง เพื่อจะเอามาให้ได้ ดังนั้นจุดอ่อนข้อนี้จึงเอื้อประโยชน์แก่พ่อค้านายทุนที่ได้สนับสนุนพรรคการเมืองเพื่อให้ได้เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล สนับสนุนบุคคลให้เข้ามาสู่ระบบรัฐสภาหรืออาจรับสมัครลงแข่งขันคัดเลือกเช่นเดียวกับนักการเมืองทั่วไป ก็เพื่อหวังผลประโยชน์ที่จะได้จากประเทศชาติ

 5.2.5   มีค่านิยมด้านวัตถุนิยม  ความร่ำรวย  และมั่งคั่ง กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจและนายทุนที่เข้ามาสู่ระบบรัฐสภาเป็นผลผลิตของระบบทุนนิยมที่มีค่านิยมเรื่องความมั่งคั่งร่ำรวยและวัตถุนิยม การซื้อเสียง ซื้อตำแหน่งเป็นรอยด่างของระบอบประชาธิปไตย การฉ้อราษฎร์บังหลวง คอรัปชั่น นำไปสู่ระบบการผูกขาดที่เอื้ออำนวยต่อพรรคพวก ญาติ และกลุ่มร่วมผลประโยชน์ ทั้งนี้กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจและนายทุนที่เข้ามาสู่ระบบการเมืองเพราะล้มเหลวในธุรกิจเดิมของตน จึงใช้ความพยายามอาศัยประโยชน์ทางการเมืองเสริมสร้างบารมีขึ้นมาใหม่ เพื่อฟื้นฟูธุรกิจเดิมของตนเอง โดยอาศัยกลไกทางการเมือง อิทธิพลพรรคการเมืองมาเป็นหลักประกันเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ปรากฏการณ์เช่นนี้จะทำลายระบบการเมือง เพราะนักการเมืองควรจะเห็นประโยชน์ของชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตน กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจและนายทุนมีเป้าหมายทางการเมืองสูงสุด คือเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะถ้ามีโอกาสได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี  เลขาธิการนายกรัฐมนตรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  แม้กระทั่งเลขา- นุการรัฐมนตรี จะเพิ่มบารมี เพราะมีตำแหน่งทางการเมืองรองรับ ทำให้มีศักยภาพสูงกว่าการเป็นเพียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรธรรมดา

 5.2.6   ทุจริตและคอรัปชั่น กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจและนายทุนครุ่นคิดตลอดเวลาว่าจะได้ประโยชน์อย่างไรจากนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นโครงการที่ไม่เคยมีมาก่อน การผูกขาดสัมปทานโครงการใหญ่ ๆ จึงเป็นโอกาสที่จะสร้างความร่ำรวยได้โดยไม่ยาก เช่น การได้ใบอนุญาตนำเข้าสินค้า สัมปทาน      ต้มกลั่นสุรา ธุรกิจการสื่อสาร พ่อค้านักธุรกิจที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้ากระทรวง คือเป็นรัฐมนตรี จะมีอำนาจให้ใบอนุญาตส่งออกหรือนำเข้าสินค้า ถ้าได้ค่าคอรัปชั่นเพียงร้อยละ 5-10 ก็อาจมีทุนสามารถตั้งพรรคการเมืองเองได้ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทำกำไรมหาศาล เป็นช่องทางให้มีการติดสินบนเพื่อช่วยเหลือกลุ่มพรรคพวก กลุ่มพ่อค้า     นักธุรกิจและนายทุน ที่เข้ามารวมกลุ่มอาชีพอื่น ๆ ตั้งพรรคหรือเข้าร่วมในพรรคการเมือง ซึ่งมีทั้งนักการเมืองมืออาชีพ นักการเมืองล้าหลัง นักวิชาการ กลุ่มข้าราชการบำนาญ เมื่อเข้ามารวมกลุ่มทางการเมืองเป็นพรรคการเมืองแล้ว สิ่งหนึ่งที่จำเป็นคืองบประมาณค่าใช้จ่าย การร่วมลงขันกันนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้ให้การสนับสนุนมากย่อมได้รับผลตอบแทนมาก อาจรวมกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งเมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วกลุ่มเล็ก ๆ เหล่านี้จะเกาะกุมอำนาจเพื่อการต่อรอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบการเมืองต่อไปได้

5.2.7   ไร้จิตสำนึกและขาดจริยธรรม พ่อค้านักธุรกิจและนายทุนเมื่อก้าวเข้ามาเป็นนักการเมืองมีสภาพเหมือนบุญหล่นทับ การจัดตั้งรัฐบาลในระบอบการปกครองของไทยมีระยะสั้น ที่จะอยู่ครบตามวาระนั้นมีน้อยมาก  โดยเฉพาะรัฐบาลที่ค่อนข้างเป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่รัฐบาลทหารหรือรัฐบาลเผด็จการที่ครองอำนาจยาวนานมากกว่า  พ่อค้าและนักธุรกิจที่เข้ามาช่วงสั้น ๆ จึงต้องรีบเร่งทำงาน ทั้งงานการเมืองและงานการเงิน  คือจะทำอย่างไรจึงจะมีทุนสำหรับการคัดเลือกครั้งต่อไป หรือทำอย่างไรจึงจะได้ทุนคืนและทำอย่างไรจึงจะสามารถสร้างพันธมิตรทางธุรกิจได้ ดังนั้นนักการเมืองที่มีฐานมาจากนักธุรกิจอาจเข้ามาครั้งเดียวแล้วหายไป บางคนเข้ามายังไม่มีผลงานและบางคนต้องการมาเป็น รัฐมนตรีเพียงเพื่อจะได้ชื่อว่าเคยเป็นรัฐมนตรีมาแล้ว การที่อายุของการเป็นรัฐบาลระยะสั้นนี้ส่งผลกระทบต่อระบบราชการ นักการเมืองที่ได้อำนาจรัฐจะทำการล้างบาง โยกย้ายพรรคพวกให้เข้ามาในเขตพื้นที่ที่ตนจะลงเลือกตั้งครั้งต่อ ๆ ไป นอกจากนี้ข้าราชการที่เคยขัดขวางในระหว่างที่เป็นพรรคฝ่ายค้านก็จะถูกเล่นงานและมักจะเรียกว่าการโยกย้าย สับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมหรือเพื่อส่งเสริมให้ได้ตำแหน่งสูงขึ้น การใช้อำนาจรัฐต่อข้าราชการประจำไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อระบบการเมืองยังก่อให้เกิดระบบอุปถัมภ์ในหมู่ข้าราชการ มีการเล่นพรรคเล่นพวก ไม่ว่าจะเนื่องมาจากเหตุผลส่วนตัว หรือเพื่อผลในการควบคุมคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า