
ช่วงนี้การระบาดของโควิด-19 เป็นที่สนใจและสร้างความประหวั่นพรั่นพรึงไปทั่วโลกอยู่เหมือนเดิมจนจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทั้งนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่ธรรมชาติจะต้องรักษาความสมดุลของโลกให้เกิดขึ้นเสมอตามหลัก “Balance of Nature” หรือ ดุลแห่งธรรมชาติ ที่รักษาสภาวะแวดล้อมในระบบนิเวศของโลกเราให้อยู่ในสภาพสมดุล เนื่องจากเริ่มมีประชากรโลกมากขึ้นทุกวันเกินกว่า 7,000 ล้านคนแล้ว ขณะที่ทรัพยากรต่อการดำรงชีพที่มีอยู่อย่างจำกัดในอนาคตจะไม่เพียงพอก็เป็นได้ การเกิดปรากฏการณ์ต่างทางธรรมชาติล้วนมีผลกระทบต่อประชากรทั้งสิ้น รวมทั้งเป็นการส่งสัญญาณให้มนุษย์มีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดนั่นเอง… จะอยู่รอดกันอย่างไร ก็ดูข้อปฏิบัติการหลีกภัยจากโควิดฯ ที่ทางการแนะนำไว้ง่ายๆ คือ “สวมหน้ากาก…อยู่ห่าง… ล้างมือ…ยึดหลักคือ ไม่ร่วมสังคมกับกลุ่มคนแออัด” คิดได้อย่างนี้ไม่ต้องไปหวั่นวิตกและตื่นตระหนก…จนลืม “ความตระหนัก” ไปก็แล้วกัน..!!?
มีข่าวประชาสัมพันธ์งาน “33 ปี หนังสือพิมพ์เชียงรายนิวส์” บก.ใหญ่ โชติศิริ ดารายน บอกว่าจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ในวันที่ 6 พ.ค.’ 64 นั้น รวมทั้งการประกวดนางสาวเชียงรายด้วย เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการระบาดของโควิดฯ จึงขอเลื่อนไปก่อนราวเดือนหน้าโดยจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
*…ช่วงนี้ทุกๆ คน คงเครียดและตระหนกกับโควิดฯมานาน ร่วม 2 ปี แล้วและคงจะต้องเครียดกันต่อไปจนกว่าจะคุ้นชินและปรับตัวได้ตามหลักการที่บอกไว้แล้ว…วันนี้จะคุยกับท่านเรื่อง… เราพากันหนีจากโควิดฯไปพิชิตสิ่งนอกโลกกับยานอวกาศที่ชื่อว่า “ดาวเทียมของไทย” กันดีกว่าเพราะในอนาคตประเทศไทยเราต้องเป็นข่าวไปทั่วโลกแน่นอน….
เมื่อกลางเดือนธ.ค. ปี’63 หลายคนคงจำได้ว่า นายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ (ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.อเนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ประกาศนโยบายว่า “ไทยจะเป็นชาติที่ 5 ของเอเชียที่สร้างยานอวกาศไปดวงจันทร์” ใช้ระยะเวลาดำ เนินการไม่เกิน 7 ปี หรือราวๆ ปี พ.ศ. 2571 จะสามารถส่งบินโคจรรอบดวงจันทร์ โดยมีโครงการจะสร้างดาวเทียมด้วย ซึ่งสร้างความฮือฮาเชิงหัวร่อ..ไปในคราวเดียวกัน ว่าเป็นแค่เพียงฝันจะเป็นไปได้หรือ…ทำเอาหลายๆคนฟังข่าวนี้แล้วคลางแคลงใจในน้ำคำนักการเมืองผู้นี้อย่างยิ่ง…
นิตยสาร สาระวิทย์ฉบับที่ 95 เดือน ก.พ.’64 ที่มี ปริทัศน์ เทียนทอง เป็น บรรณาธิการ (นิตยสารนี้ผู้เขียนเป็นสมาชิกซึ่งเป็นหนังสือที่มีคุณค่ามากๆ เหมาะแก่ผู้สนใจด้านวิทยาการด้านต่างๆ ดีมากใครสนใจอยากเป็นสมาชิกลองค้นดู หรืออ่านฟรีๆได้ในเว็บไซต์ได้ครับ) จึงขออนุญาตนำข้อมูลบางตอนมาเสนอในครั้งนี้ด้วย
กล่าวสำหรับ การสร้างดาวเทียมขนาดเล็กของไทย เพื่อใช้ในการวิจัยของคนไทยโดยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐหลายๆ แห่ง ได้มีการเสวนาออนไลน์ “ถอดรหัสไทยจะไปดวงจันทร์” 3 วันเมื่อ 20-22 ม.ค.’64 ที่ผ่านมาทาง Fb เป็นการรวมพลังพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยจาก “ผู้ซื้อ” เป็น “ผู้สร้าง” (ที่ผ่านมาเราซื้อจากต่างประเทศ) (สามารถรับชม ย้อนหลังได้ทาง https://fb.watch/3deKNKDxdU/) ด้วยการพูดคุยถึง การพัฒนา “ดาวเทียมวิจัยวิทยาศาสตร์ TSC-1 สู่ยานโคจรรอบดวงจันทร์” ผ่านโครงการ “Thai Space Consortium (TSC)” เป็นโครงการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่อยู่ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวง อว.
เราจะได้ประโยชน์อะไรจากดาวเที่ยม (Satellites) แล้วแต่เราจะให้ความสำคัญเรื่องอะไร เช่น ดาวเทียมเพื่อดาราศาสตร์, ดาวเทียมสื่อสาร, ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลก, ดาวเทียมนำร่อง, ดาวเทียมจารกรรม, ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา เป็นต้น (ที่มา : https://www.cartrack.co.th)
สำหรับประเทศไยเรา เราจะสร้างดาวเทียม TSC-3 มีแผนการจะปล่อยขึ้นสู่อวกาศ ในปี พ.ศ. 2572 ใช้ประโยชน์ในการสำรวจโลก ดาวเทียม TSC-4 มีแผนจะปล่อย ในปี พ.ศ. 2573 เป็น ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลก ดาวเทียม TSC-5 มีแผนจะปล่อย ในปี พ.ศ. 2574 เป็น ดาวเทียมสำรวจอวกาศห้วงลึก โครงการนี้ยังเป็นแกนกลางถ่ายทอดเทคโนโลยีอวกาศจากภาครัฐสู่ภาคการศึกษาและภาคเอกชน ตลอดจนสนับสนุน การนำองค์ความรู้จากเทคโนโลยีอวกาศ และดาวเทียมไปต่อยอดพัฒนานวัตกรรม อันจะนำไปสู่ประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ และประเทศชาติต่อไป…บทสรุปจากนิตยสารดังกล่าวระบุไว้ตอนท้าย
เชียงรายนิวส์ …ขอเชียร์และให้กำลังใจเต็มที่กับโครงการ “Thai Space Consortium (TSC)” โครงการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่อยู่ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวง อว. ที่มี ศ.พิเศษ ดร.อเนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว..กระทรวง อว. เป็นต้นคิดคนแรกของไทย… นานๆ ที่เราจะได้เห็นนักการเมืองไทยพูดถึงโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะและประชาคมโลก ที่ผ่านมาส่วนใหญ่มักจะพูดถึงการรักษาอำนาจของตนเองและพวกพ้องกับความมั่งคั่งมั่นคงของตนเองเสียเป็นส่วนใหญ่กันทั้งนั้น..!!
