เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2564 เวลา 19.00 น. พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดีนี้ พร้อมเปิดเผยว่า ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 7 และภาค 8 ได้ขยายผลจากการตรวจสอบพัสดุที่ส่งมาจากต้นทาง ในพื้นที่อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช, อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม และ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
กระทั่งมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ จึงขอศาลออกหมายจับกลุ่มที่มีส่วนพัวพันกับการขนส่งอาวุธสงครามล็อตนี้ได้อีก 4 คน คือ นายชิติพัทธ์ โชวมณี อายุ 31 ปี, นายภัคเมศร์ กีรติธัญญศิลป์ อายุ 28 ปี ทั้ง 2 คน ถูกจับกุมตัวได้ที่จังหวัดนครปฐม, นายธีรพล อรัญญพฤกษณ์ อายุ 28 ปี ถูกจับได้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และ นางสาวพิชญาภัค กลองตัน อายุ 32 ปี ถูกจับได้ที่จังหวัดนครราชสีมา
จากการสอบสวนผู้ต้องหากลุ่มนี้ ได้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก ส่งของจากภาคใต้มาพื้นที่ภาคกลาง และอีกกลุ่ม จะส่งของจากพื้นที่ภาคกลางไปที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยเมื่อวานนี้ มีผู้ต้องหา 3 คน ถูกควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.แม่สาย ทั้งหมดก็ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ส่งกระสุนปืน และระเบิดของกลางที่พบทั้งหมดจริง ส่วนผู้ต้องหาอีกคนถูกควบคุมตัวอยู่ในพื้นที่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม
ส่วนกระสุนปืนและระเบิดที่พบ โดยเฉพาะระเบิดเป็นของเก่า แต่จากสภาพที่ยังดูใหม่อยู่นั้น น่าจะเกิดจากการเก็บรักษาเป็นอย่างดี เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะนำเข้ามาใช้ในทางราชการ แต่ยังต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่าเป็นของหน่วยงานใด
ทาง พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า น่าจะมีผู้ร่วมขบวนการค้าอาวุธสงครามมากกว่านี้อีก ขณะนี้กำลังเร่งขยายผลเพื่อตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนปลายทางที่จะไปส่งอาวุธสงครามเหล่านี้ไปให้กับกลุ่มใดในประเทศเพื่อนบ้านนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ ซึ่งทางตำรวจจะได้ประสานข้อมูลกับประเทศเพื่อนบ้านต่อไป