“ทีมงาน “เชียงรายนิวส์” ทุกคนมาช่วยกันด้วยใจ…ที่ต้องการให้สังคมเชียงรายดีขึ้น ไม่มีค่าตอบแทนใดๆ ทุกๆคนมีการมีงานทำเป็นหลักเป็นฐาน…ขอจงเชื่อมั่นในเกียรติภูมิของพวกเราจนได้รับความเชื่อถือมาจนทุกวันนี้…”
(โชติศิริ ดารายน บก.เชียงรายนิวส์ กล่าว เมื่อ 19 พ.ค.62)
ปัจจุบันเชียงรายนิวส์ ยังมี “เว็บไซต์ข่าว” ชื่อ www.chiangrainews.net ด้วย ที่ผ่านมามียอดวิวเกือบล้านคนแล้ว ผู้สนใจดูข่าว ที่เที่ยงตรง แม่นยำ เชื่อถือได้ และข่าวสารความเคลื่อนไหวด้านต่างๆ โฆษณา ห้างร้าน บริษัท ฯลฯ รวมทั้งข้อคิดความเห็นของ “คอลัมน์นิสต์” ที่หลากหลายก็เชิญคลิกดูได้เลย…
“เชียงรายนิวส์” และ เชียงรายนิวส์ออนไลน์ (www.chiangrainews.net) จะจัดงานฉลองครบรอบ 32 ปี ในวันเสาร์ที่ 15 สิงหาคมนี้ (63) ที่ โรงแรมเดอะเฮอริเทจ เชียงราย (ลิตเติ้ลดั๊กเก่า) โดยเลื่อนมาจากกำหนดเดิมที่จะจัดเมื่อ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัญหาเรื่องภัยโควิด-19 ระบาดทั่วประเทศและทั่วโลก
ในปีนี้จะจัดให้มีการประกวด “นางสาวเชียงราย 2563” หรือ “Miss Chiangrai” (มิสเชียงราย) ด้วย โดยทีมงานผู้จัดระดับมือโปรฯ ผู้ประกวดและผู้ได้รับตำแหน่งที่มีความสามารถตามเกณฑ์ยังจะมีอนาคตที่ดีในวงการนี้ด้วยในเวทีประกวดระดับต่างๆ
เชียงรายนิวส์ เป็นสื่อมวลชนที่มีการปรับตัวไปตามยุคดิจิทัล ที่ทุกคนอยู่ที่ไหนในโลกก็สามารถสื่อสารกันได้ในฉับพลัน ยิ่งในยุคดิจิทัล “ดิสรัพท์” (Disrupt) เช่นนี้ เชียงรายนิวส์ก็ต้องอยู่สังคมของโลกนี้ให้ได้ ตามพฤติกรรมผู้บริโภคข่าวสารจึงมี บทบาทอย่างสูงในการสร้างสรรค์สังคมเชียงราย และจังหวัดเชียงราย ให้เป็นที่รู้จักในเรื่องต่างๆ มากมาย บทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชนอย่าง “เชียงรายนิวส์” อีกทั้งได้ทำหน้าที่ให้ข่าวสาร และข้อเสนอแนะท้วงติงในเรื่องต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์แล้ว ยังสนับสนุน ส่งเสริม ด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม และกิจกรรมต่างๆ ให้เชียงราย และจังหวัดใกล้เคียงมีความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางตรงและทางอ้อมมาโดยตลอด
บทบาทของ “เชียงรายนิวส์” ในอดีตที่ผ่านมานั้นมีส่วนร่วมสร้าง ร่วมผลักดันข่าวสารต่างๆให้ปรากฏเพื่อขอความร่วมมือจากประชาชน เช่น การได้มาของ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง การย้าย การเปลี่ยนสถานะของ สถาบันฯเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เรือนจำกลางเชียงราย ไปอยู่นอกเมือง จนกลายเป็นสวนตุงและโคม ในเขตเทศบาลนครเชียงรายในปัจจุบัน สนามบิน การสร้างรถไฟสายเด่นชัย – เชียงราย ถนนสายต่างๆ และ เสนอการเปลี่ยนย้ายสถานที่หลายแห่งเพื่อความเหมาะสมตามการเปลี่ยนแปลงสังคม ฯลฯ และการระดมทุนเพื่อสาธารณะ เป็นต้น
แม้ในช่วงโควิดฯ ระบาดยังมีบทบาทในการเข้าร่วม บริจาค ฯลฯ การร่วมกิจกรรมสารพัดในการรณรงค์ช่วยเหลือประชาชนที่ลำบากในการดำรงชีพในหลายอำเภอจนได้รับความชื่นชมอยู่เนืองๆ จากประชาชน และองค์กรต่างๆ
…หันมามองเรื่อง “การเมืองและเศรษฐกิจ” ที่จะมีผลกระทบเป็นวงกว้างที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของทุกๆ คนบ้าง
การเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัว “การเมืองเป็นเรื่องการแบ่งสรรอำนาจ” ของแต่ละกลุ่มตามความเชื่อของตน ที่สามารถกำหนดวิถีชีวิตของผู้ถูกปกครองในประเทศได้ฉันใด …หากกฎกติกาและ อำนาจนั้น ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าถูกกดขี่ ข่มเหง รังแก เอาเปรียบ ประชาชนก็จะลุกขึ้นมาต่อต้าน คัดค้าน..ฉันนั้น.. การเมืองไทยวันนี้มีหลายฝักหลายฝ่ายกำลังแย่งชิงอำนาจกัน…จะจบลงด้วยเหตุผลใดต้องไม่กระพริบตา..วันต่อวันกันเลยทีเดียว…มีทั้งนักวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ ที่คิดเป็นเหตุเป็นผล อีกทั้งนักโหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ ออกมาบอกคล้ายๆกันว่าปีนี้ประเทศไทยจะพบกับ “วิกฤติทางการเมืองและเศรษฐกิจ” ครั้งใหญ่ ..จริงหรือไม่…อย่าเพิ่งปลงใจเชื่อเสียทีเดียว…กาลเวลามันจะบอกเอง….??!!
ส่วนด้านเศรษฐกิจนั้น..อย่างที่เคยนำเสนอข้อมูลไปแล้วว่าในปีนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ “สศช.” ได้เปิดเผยถึงอัตราการว่างงาน ของปี 2563 ว่า พิษโควิด-19 ทำให้คนเสี่ยงตกงาน 8.4 ล้านคน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ คือ กลุ่มการท่องเที่ยว, กลุ่มอุตสาหกรรม, และกลุ่มบริการ จนมาถึงวันนี้การฟื้นตัวแม้รัฐบาลจะส่งเสริมมีโครงการให้เงินช่วยเหลือต่างๆ ทั้งมอบให้โดยตรง และมาในรูปโครงการต่างๆ สารพัด แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้มากนักกับสิ่งที่เราเสียโอกาสไปในช่วงวิกฤติโควิดฯ เพราะปัจจัยหลักๆที่เป็นพระเอกที่นำเงินมาสู่ประเทศคือ “การท่องเที่ยว” นั้นยังมองไม่เห็นอนาคตจนบัดนี้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากชาวจีน…เมื่อก่อนบางกลุ่มพากันรังเกียจ เหยียดหยาม เพราะไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมบางอย่าง ถึงกับออกมาประณามด้วยลีลา ภาษา ที่ฟังแล้วไม่รื่นหู..แต่มาวันนี้…เราต้องมองคนจีนเป็นเทวดา…โหยหาอยากให้มาเที่ยวกันเยอะๆ อีกครั้งไปแล้ว เพราะธุรกิจที่เกี่ยวข้องการท่องเที่ยวหลายแห่งล้มหายตายจากไปแล้วจากวิกฤติครั้งนี้ อย่างน่าเห็นใจ…
ก็ขอฝากหลักคิดของคนญี่ปุ่นเขียนไว้ดังนี้ 4 หลักคิด หากท่านคิดอะไรสับสนอยู่ดังนี้ 1. ทำในสิ่งที่เรารักเราชอบหลงใหลได้ปลื้ม 2.ทำในสิ่งที่เราทำได้ดีกว่าคนอื่นหรือสิ่งใหม่ที่ไม่มีคู่แข่ง 3.ทำในสิ่งที่ทำให้เกิดรายได้มีมูลค่าในตัวและเป็นประโยชน์ และ 4.ทำในสิ่งที่สังคมต้องการทุกอย่างความสำเร็จกวักมือเรียกเราอยู่ทุกเวลา
…ครับ เราชาว “เชียงรายนิวส์”...ขอให้กำลังใจลุกขึ้นสู้อีกครั้งใหม่..หนทางยังมีให้เลือกเดินมากมาย…ชีวิตนี้ยังมีหวัง สุดแท้ใครจะเลือกทางไหนทุกอย่างอยู่ที่ “ใจของเรา”..ใจเป็นใหญ่..ใจเป็นประธาน..ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ…!!!