พักนี้จังหวัดเชียงรายมักจะมีเรื่องราวเป็นประเด็นให้สื่อมวลชนและผู้คนทั่วประเทศได้พูดถึงอยู่บ่อยครั้ง ต้นสายปลายเหตุส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วมาจากกิจกรรมด้านงานการบ้านการเมืองล้วนๆ
เริ่มจากผลการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 7 ที่ได้ส.ส.สง่า พรมเมือง จากพรรคเพื่อไทย ชนะคู่แข่งจากพรรคประชาชน ซึ่งคุณแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตนายกรัฐมนตรี ก็นำไปให้สัมภาษณ์สื่อในทำนองว่า เป็นความสำเร็จของพรรคในสนามเลือกตั้งซ่อม สวนทางกับที่หลายๆคนปรามาสว่า พรรคเพื่อไทยขาลง
เรื่องสารปนเปื้อนในลำน้ำแม่กก แม่สาย แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง ก็เป็นปัญหาระดับภูมิภาค ที่รัฐบาลได้ส่งทัพใหญ่มาถึง 2 ทัพ คือ คณะของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับรอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะกรม กอง ที่เกี่ยวข้อง
เรื่องสารปนเปื้อนในแม่น้ำที่ประชาชนชาวเชียงใหม่ เชียงราย ใช้อุปโภคบริโภคนี้ แม้เจ้าตัวต้นเหตุมันจะเป็นเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในเขตประเทศเมี้ยนมา ที่มีชาวว้าคู่กัดกับรัฐบาลเมี้ยนมาเป็นเจ้าของสัมปทาน ซึ่งไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า รัฐบาลเมี้ยนมาก็ไม่สามารถเข้าไปใช้อำนาจรัฐจัดการได้
ประชาชนคนเชียงราย-เชียงใหม่ที่ต้องรับสารปนเปื้อนในปลายน้ำก่อนจะไหลลงรวมในลำน้ำโขง ก็ต้องรับกรรมแบบเต็มๆ แม้ว่าสารหนู สารตะกั่ว สารแคดเมียม ที่มีการตรวจพบเจอนี้ มันจะไม่ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ที่เผลอไผลไปอุปโภคบริโภคแบบทันทีทันใด แต่มันก็สะสมจมอยู่ในร่างกายผู้คน ที่เผลออุปโภคเข้าไปในรูปแบบต่างๆ แบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์
คนเชียงรายนี่น่าเวทนาจริงๆ โดนประทุษร้ายหลายเด้งเลย ทั้งฝุ่นพิษ PM2.5 เข้าปอด สารพิษประเภทสารหนู สารตะกั่วที่มากับแหล่งน้ำธรรมชาติ สะเปะสะปะเข้าไปกระจายอยู่ในโครงสร้างร่างกายมนุษย์แบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว
เขียนให้มันน่ากลัวอย่างนี้แหละครับพี่น้อง เพราะสถิติทางการแพทย์ที่เป็นรายงานสู่สาธารณชน ได้ทราบข้อมูลด้านสาธารณสุขมาว่ามีประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว 7 คน แต่ระดับความรุนแรงต่อร่างกายเป็นเช่นไร ไม่รู้ ที่สำคัญก็คือ มันไม่น่าเกิดขึ้นกับประชาชนที่ไม่รู่อิโหน่อิเหน่ อากาศหายใจก็มีฝุ่นพิษ น้ำในแหล่งน้ำก็มีสารพิษ
รัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะทำไง คนเชียงรายที่ทราบข่าวเรื่องสารพิษในแม่น้ำ ก็คงไม่สบายใจ คนทั้งจังหวัด ทุกหน่วยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผู้แทนประชาชนทั้งสส. สว. ก็คงอยู่ไม่เป็นสุขหรอก ก่อนหน้านี้ท่านสว.มณีรัตน์ เขมะวงศ์ ก็เคยนำประเด็นสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำกกไปอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาลมาแล้ว ซึ่งก็เชื่อว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็คงต้องออกแอ็คชั่นแรงๆให้ประชาชนได้เห็น
สองทัพรัฐมนตรีสุชาติกับผู้กองธรรมนัสที่ยกทัพมาเชียงรายก็น่าจะเป็นแอ็คชั่นหนึ่ง !
ล่าสุด ประเด็นข่าวสารที่เป็นที่เล่าขวัญของชาวบ้านย่านตลาดก็คือ การโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ที่ปรากฎชื่อ นายชูชีพ พงษ์ไชย รองปลัดกระทรวงมหาดไทยจะมานั่งตำแหน่งแทนผู้ว่าท็อป นายรัฐพล นราดิศร ที่มีคำสั่งให้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรสำหรับวัฒนธรรมระบบราชการไทยระหว่างข้าราชการประจำกับกลไกการเมือง การยกอ้างถึงเหตุผลว่าเป็นการโยกย้ายตามฤดูกาลแทนที่ผู้เกษียณ และเป็นการดำเนินการตามที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยเสนอชื่อมา ก็พิจารณาอนุมัติไปตามความเหมาะสม ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติวิสัยของระบบราชการไ
แม้จะมีคำถามจุกจิกหัวใจเกี่ยวกับระยะเวลาการมาปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายให้เป็นที่ครหาบ้าง ซึ่งหากยุบสภาและมีการเลือกตั้งต้นปี 2569 เกิดได้รัฐบาลที่เป็นพรรคคู่กรณีกับพรรคภูมิใจไทยขึ้นมาเป็นฝ่ายบริหาร หรือคุมบังเหียนกระทรวงมหาดไทย การโยกย้ายและแต่งตั้งข้าราชการกระทรวงมหาดไทยนอกฤดูกาลก็อาจเกิดขึ้นได้
เชิญชวนทุกท่านทำหน้าที่ประสาพลเมืองคนเชียงราย มีส่วนร่วมกับกิจกรรมและพัฒนาเมืองเชียงรายให้ดีที่สุด พ่อเมืองท่านใดมาทำงานจะมีห้วงระยะเวลายาวสั้นแค่ไหนก็เป็นไปตามระบบ ประสาคนคนเชียงราย อยู่เมืองเชียงราย มาช่วยกันทำหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด
เพื่อเมืองเชียงรายของหมู่เฮา ครับ
