ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีเข้าสู่ยุคใหม่แห่งความร่วมมือ โดยได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงสำคัญ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมืองเวินโจวเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเทคนิคในด้านอุปกรณ์ไฟฟ้ารวมถึงการส่งเสริมและฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ โดยพิธีลงนามเป็นไปอย่างราบรื่นภายใต้การกำกับดูแลของผู้แทนระดับสูงของเมืองเวินโจ
สาระสำคัญของข้อตกลงนี้อยู่ที่การถ่ายทอดเทคโนโลยีการก่อสร้างอุปกรณ์ไฟฟ้าขั้นสูงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมายังประเทศไทย ควบคู่กับการจัดตั้งกรอบความร่วมมือด้านการดำเนินงานที่มีความมั่นคงและต่อเนื่อง ภายหลังจากการหารืออย่างละเอียดรอบคอบ คณะผู้แทนจากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุฉันทามติร่วมกันได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนสำคัญต่อการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของประเทศไทยสำหรับบผู้ประกอบการ โดยฝ่ายจีนจะถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้งให้กับหน่วยงานเอกชน เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาระบบไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพสูงได้อย่างยั่งยืน
นาย ชาน เจียนยง (Mr.Zhang Jiangyong) ตัวแทนจากzhejiang Cihong Electrical Power Technology Co.Ltd กล่าวว่าประเด็นสำคัญในความร่วมมือในครั้งนี้มิได้จำกัดอยู่เพียงการถ่ายทอดเทคโนโลยีเท่านั้น หากแต่ยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนระยะยาวระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลในเชิงบวกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งประเทศไทยและจีน
นอกจากนี้ ในพิธีลงนามยังมีการตกลงร่วมกันในข้อตกลงเพิ่มเติมว่าด้วยการส่งเสริมภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ( Wencheng County Cultural Tourism Development Group Co.,Ltd) ในอดีตที่ผ่านมาภาคธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
การลงนามครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในหลายด้าน อาทิ การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดร่วมกันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว การพัฒนาผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยว รวมถึงการปรับปรุงขั้นตอนการขอรับวีซ่าให้มีความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ข้อตกลงฉบับนี้ระหว่างสมาพันธ์smeเชียงรายและเมืองเวินโจวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงในด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ แต่ยังตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจอันลึกซึ้งและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการเจรจาที่ได้รับการสนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพจากนายแจฮวัน ซอล (Jae-hwan Seol) ผู้เชี่ยวชาญชาวสาธารณรัฐเกาหลี และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ยและประสานงานจนสามารถนำไปสู่ความสำเร็จของข้อตกลงในครั้งนี้ได้อย่างราบรื่น
ปัจจุบัน ความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง ผู้ประกอบการไทยและจีนได้กลายเป็นที่จับตามองของประชาคมระหว่างประเทศ ท่ามกลางความคาดหวังต่อผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว
เวินโจวเดิมรู้จักกันในชื่อ หย่งเจีย เป็นท่าเรือในสนธิสัญญาต่างประเทศที่เจริญรุ่งเรือง ซึ่งยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีในปัจจุบัน การขนส่งเมืองเวินโจวมีท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ ซึ่งเป็น 1 ใน 25 ท่าเรือสำคัญของจีน โดยมีการเชื่อมโยงกับท่าเรือสำคัญหลายพื้นที่ ได้แก่ ทิศเหนือติดต่อกับท่าเรือหนิงโป ทิศใต้ติดต่อท่าเรือของเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน โดยท่าเรือเวินโจวมีเส้นทางการเดินเรือมากถึง 350 เส้น เวินโจวตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นภูเขาและด้วยเหตุนี้ประวัติศาสตร์ของที่นี่จึงถูกแยกออกจากส่วนอื่น ๆ ส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้วัฒนธรรมและภาษาท้องถิ่นแตกต่างอย่างมาก ไม่เพียงแต่ต่างจากพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของจีนเท่านั้น แต่ยังต่างจากพื้นที่ข้างเคียงอีกด้วยจึงทำาให้เวินโจวเป็นอีกสถานที่นึงที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการจะขยายฐานตลาดสินค้าไปยังประเทศจีน
