คอลัมน์ » พลังใจจากแม่สาย ถึงชายแดนไทย-กัมพูชา : ข้า คือ ไทย!

พลังใจจากแม่สาย ถึงชายแดนไทย-กัมพูชา : ข้า คือ ไทย!

22 กรกฎาคม 2025
79   0

พักนี้ เวลาฝนฟ้าเทกระจาดลงมาในพื้นที่ขวานทองทิศเหนือ จะมากจะน้อย ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงเป็นใยพื้นที่ทางตอนบนของอำเภอแม่สาย เพราะประสบการณ์พิบัติภัยมวลน้ำ ลาวาโคลนและพะเนินเทินทึกแห่งต้นไม้ที่หักโค่นจากเมียนมาลากไหลโครมครามเรี่ยราดรายทางน้ำ เมื่อปี 2567 ในพื้นที่อำเภอแม่สาย และลากยาวไปในลำน้ำสาขาหลายๆอำเภอ กระทั่งเขตเทศบาลนครเชียงรายก็ยังอ่วมอรทัย

เป็นภาพจำของคนไทยและชาวเชียงรายอย่างไม่รู้ลืม !

วันนี้ ในฐานะประชาชนชาวเชียงรายก็ต้องขอขอบคุณ นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และทีมผู้บริหาร หัวหน้าภาคส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ ที่รวมพลังออกแอ็คชั่นแบบเหนื่อยแล้ว เหนื่อยอีก โดยเฉพาะการตั้งรับ และการบูรณาการ

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เดินทางมาพื้นที่เชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำในสุ่มน้ำโขงเหนือ ติดตามการขุดลอกลำน้ำสาย ลำน้ำรวก และลำน้ำกก ซึ่งเมื่อดูหน้างานการทำงานอย่างเข้มข้นจริงจังต่อเนื่องแล้ว เลขาธิการ สทนช. ก็ถึงกับกดไลค์รัวๆ พร้อมชูเชียงรายให้เป็นจังหวัดต้นแบบของการบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อการรับมืออุทกภัย ปี 2568 ในฐานะที่เชียงรายเป็นจังหวัดเสี่ยงอุทกภัยซ้ำซาก

ตัวอย่างภาระงานที่เข้าตาคนเชียงรายแบบชัดๆก็คือ กองทัพบก โดยกรมการทหารช่างที่ระดมยุทโธปกรณ์เครื่องจักรกล กำลังพล ไม่หลับไม่นอนเร่งระดมสร้างพนังกั้นน้ำในลำน้ำแม่สาย อำเภอแม่สาย โดยพนังสูงพ้นผิวดินถึง 3.20 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำล้นตลิ่งในปี 2567

นอกจากนั้นกรมการทหารช่าง ยังขนบิ๊คแบ็คนับร้อยลูกปิดกั้นทางน้ำเชิงสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 1 แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก มิให้ล้นตลิ่งทะลักทลายเข้าไปในพื้นที่เศรษฐกิจที่เคยประสบอุทกภัยในปี 2567 ไม่ว่าจะเป็นตลาดสายลมจอย ชุมชนไม้ลุงขน เกาะทราย หัวฝาย และชุมชนเหมืองแดง

ที่ออกจะหงุดหงิดรำคาญใจก็คือเรื่อง การขุดลอกตะกอนในลำน้ำแม่สายที่ไทยและเมียนมาตกลงกันว่า ให้เป็นภารกิจของทางเมียนมา ยินทางเมียนมาเคยให้ข่าวว่า งบประมาณเพิ่งมา แต่ล่าสุดมีโอกาสรับฟังท่านเลขาธิการ สทนช. ให้สัมภาษณ์ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงรายทราบว่า ทางเมียนมายังดำเนินการขุดลอกลำน้ำแม่สายไปได้ไม่มากนัก ในขณะที่ทางเชียงรายดำเนินการขุดลอกลำน้ำรวกไปไก้กว่า 50% แล้ว

ฝนฟ้ามันไม่เข้าใครออกใคร เป็นฝนฟ้าตามฤดูกาลก็ยังพอทำเนา หากเป็นพายุแบกฟ้าแบกฝนข้ามน้ำข้ามแผ่นดินอย่างพายุยางิ ปี 2567 แม่สาย-เชียงรายวันนี้ก็คงดูไม่จืด

ชาวเชียงรายถึงเวลานี้ก็คงต้องส่งกำลังใจให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และทีมงาน พันธมิตร เครือข่ายหน่วยงานทุกภาคส่วนได้ทำงานสู้มวลน้ำที่มันจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้แม่สายก็ถูกท้าทายชิมลางด้วยห่าฝนไม่มากไม่มายแต่น้ำแม่สายสีขุ่นข้นคลั่กก็ทะลักเข้าพื้นที่เศรษฐกิจมาแล้ว

ปี 2568 นี้ยิ่งหนักสาหัสกันไปยกใหญ่ นอกเหนือจากการตั้งรับน้ำล้นตลิ่งแล้ว กรมควบคุมมลพิษและสิ่งแวดล้อมที่ 1 ยังตรวจพบปริมาณสารปนเปื้อนโลหะหนักในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวกด้วย ซึ่งก็เป็นผลมาจากการทำเหมืองทอง เหมืองแร่แรร์เอืร์ธในเขตพื้นที่ข้ามพรมแดน คือพื้นที่ฝั่งเมียนมา

กรณีนี้ก็คงต้องเป็นบทบาทของรัฐบาลไทยกับรัฐบาลเมียนมา และจีน ที่ต้องเคลียร์โดยเร็ว เพราะโอกาสที่สารตะกั่ว สารหนู ไหลลงสู่แม่น้ำโขงมีสูง

แม้ภาครัฐจะยืนยันการันตีถึงความปลอดภัยในส่วนของสัตว์น้ำ และการสัมผัสน้ำเหนือผิวดิน แต่สภาพตลาดปลาแม่น้ำโขงเงียบเหงา ซบเซา ก็น่าจะเป็นคำตอบเชิงประจักษ์ได้ว่า ข่าวโลหะปนเปื้อนในปริมาณเกินกว่าค่าความปลอดภัยในแม่น้ำกก สาย รวกและโขง ส่งผลกระทบถึงความมั่นใจในการบริโภคสัตว์น้ำจากแม่น้ำทั้ง 4 สายนี้จริงๆ

ช่วงนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงให้กำลังใจครับ บ้านเราเชียงรายก็มีหลายเรื่องที่ต้องให้กำลังใจ รวมถึงการตั้งรับอุทกภัยที่อาจจะโถมเทมาแบบไม่ทันตั้งตัว ทางชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ฮึ่มฮั่มใส่กัน ไม่รู้ทหารไทยจะทนกับการยั่วยวนกวนบาทาจากฟากฝั่งกัมพูชาได้นานแค่ไหน แต่ก็ต้องอดทน เปรี้ยงปร้างออกไปก็เข้าทาง “ฮุนเซ็น-ฮุนมาเน็ต”ที่รอลากเข้าฟ้องศาลโลกขอความชอบธรรมที่จะครอบครองกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์

 บักห่าวอก…!



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า