Trip.com Group เผยแผนกลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจ แบ่งปันวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ในการขายธุรกิจร่วมกับเหล่าพันธมิตร กว่า 1,600 ราย 50 ประเทศ ที่งานประชุม Envision 2024 Global Partner Conference เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 โดยในงานประชุมมุ่งเน้นการเติบโตไปด้วยกันของ Trip.com Group ร่วมกับเหล่าพันธมิตรจากทั่วโลก ในหัวข้อ “Charting the Next Chapter of Our Growth Together” ซึ่งเผยให้เห็นถึงแนวโน้มและโอกาสสำคัญที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปพร้อมกัน
นวัตกรรมในการเดินทาง
ในขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้ฟื้นฟูและเข้าสู่ช่วงการเติบโตอย่างรวดเร็ว การลงทุนด้านนวัตกรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างยั่งยืนได้กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเติบโตของธุรกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะศักยภาพและบทบาทในการทำงานของ AI
คุณเจมส์ เหลียง ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน Trip.com Group ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของนวัตกรรม AI เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยได้กล่าวถึงการเปิดตัว TripGenie ผู้ช่วย AI คนสำคัญในการเดินทาง ของ Trip.com ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อปฏิวัติวงการท่องเที่ยว โดย TripGenie เป็นตัวช่วยที่สามารถวางแผนการเดินทางได้ครบถ้วนอย่างรวดเร็ว และยังสามารถช่วยเหลือผู้เดินทางในกระบวนการจองได้อย่างราบรื่นและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
“ในทุกอุตสาหกรรมจำเป็นต้องสร้างนวัตกรรมที่แปลกใหม่อยู่เสมอ สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็เช่นกัน เราได้มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพิ่มคุณภาพการให้บริการลูกค้า หรือแม้แต่ในการทำการตลาด เราได้ใช้ AI เข้ามามีบทบาทในการพัฒนา เช่น TripGenie ที่สามารถช่วยยกระดับการบริการลูกค้าและพัฒนาด้านการตลาดด้วยการนำเสนอข้อมูลที่ครอบคลุมแลตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา” คุณเจมส์กล่าว
นอกจากนี้เขายังได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญในวงกว้างของ AI ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ยกระดับการบริการลูกค้า และยังสามารถให้คำแนะนำการเดินทางที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้ เช่น การใช้ AI ในการจัดอันดับการแสดงผลบนแพลตฟอร์ม Trip.com ที่สามารถแนะนำตัวเลือกที่ติดอันดับสูงสุดและข้อเสนอที่ดีที่สุดตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
การขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วบนเวทีระดับโลก
คุณเจน ซัน ประธานกรรมการบริหาร Trip.com Group เน้นย้ำว่า Trip.com Group มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ในระดับนานาชาติที่เพิ่มมากถึง 100% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ในไตรมาสแรกของปี 2024 นับเป็นการเริ่มต้นที่นับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก โดย Trip.com สร้างรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 80% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ปัจจุบันบนแพลตฟอร์มของ Trip.com มีบริการที่พักทั่วโลกมากกว่า 1.7 ล้านแห่ง เที่ยวบินจากสายการบินมากกว่า 600 สายการบิน และเครือข่ายผู้ให้บริการทัวร์และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆอีกมากกว่า 90,000 ราย ทั้งทัวร์แบบกลุ่ม ผู้ให้บริการรถเช่า และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากมาย
โดยภายในงาน Envision 2024 Global Partner Conference ยังได้มีการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจีนในแวดวงการท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยปัจจัยของฟรีวีซ่า ความสะดวกในการชำระเงิน และกลยุทธ์การส่งเสริมการท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ เช่น การให้บริการทัวร์แบบแวะเปลี่ยนเครื่องฟรีที่ทาง Trip.com Group พึ่งเปิดตัวในเซี่ยงไฮ้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ‘ความยั่งยืน – Sustainability’ ยังเป็นอีกหนึ่งประเด็นหลักที่ให้ความสำคัญ โดยทาง Trip.com Group ได้รวมเอาความมุ่งมั่นด้าน ESG (Environment, Social, และ Governance แนวคิดในการทำธุรกิจ ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแล) เป็นเป้าหมายทางธุรกิจ โครงการริเริ่ม ESG นี้ ประกอบด้วยการส่งเสริมตัวเลือกการเดินทางแบบคาร์บอนต่ำ การสนับสนุนนโยบายการที่เป็นมิตรกับครอบครัว และการฟื้นฟูชุมชน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะได้รับประโยชน์ร่วมกันเป็นวงกว้างทั้งลูกค้า พันธมิตร และชุมชน
ใจความสำคัญจากการประชุมในแต่ละช่วง
ภายในงาน Envision 2024 Global Partner Conference ผู้บริหารท่านอื่นๆจาก Trip.com Group ยังได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการพัฒนาใหม่ๆในแต่ละส่วน โดยเผยให้เห็นนวัตกรรมการเดินทางที่หลากหลาย ดังนี้:
การจองตั๋วเครื่องบิน: ได้รับความสำเร็จอย่างมากในทั้งด้านการเดินทางภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยสามารถรักษาตำแหน่ง OTA อันดับต้นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
การจองโรงแรม: มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญโดยมีโรงแรมมากกว่า 8,000 แห่งที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ Hotel+X ร่วมกับพันธมิตรมากกว่า 2,000 รายเพื่อข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า ในขณะที่ฟังก์ชั่น Trip.Best ได้ขยายครอบคลุมการนำเสนอโรงแรมมากกว่า 20,000 แห่ง ด้วยธีมที่เพิ่มขึ้นใหม่ เช่น “โฮมสเตย์บูติก” และ “โรงแรมเปิดใหม่”
การจองตั๋วรถไฟ: ได้มีการขยายการดำเนินงานในยุโรป และมียอดขายตั๋วรถไฟระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 โดยมีการเติบโต 122% เมื่อเทียบเป็นรายปีในต้นปี 2567
การจองแพ็คเกจท่องเที่ยว: ยอดขายแพ็คเกจท่องเที่ยวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และกำลังขยายบริการจองตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกในปีหน้าด้วยการเพิ่มสาขาใหม่ 16 แห่ง และเพิ่มภาษาในการให้บริการใหม่อีก 8 ภาษา โดยยังมีแผนในการขยายบริการรถเช่าไปยังประเทศไทย ญี่ปุ่น และตลาดอื่นๆอีกด้วย
การเดินทางสำหรับองค์กร: Trip.Biz มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากในการให้บริการจองโรงแรมและเที่ยวบินสำหรับการเดินทางแบบองค์กร โดยมีแผนสำหรับการขยายธุรกิจในจีน เอเชียเหนือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง รวมถึงในยุโรป และอเมริกาเหนือด้วย
FinTech และ TripLink: ขยายการดำเนินการไปทั่วโลกโดยรองรับสกุลเงินการชำระเงิน 35 สกุลเงิน บัตรเครดิตนานาชาติ และตัวเลือกวิธีการชำระเงินเพิ่มเติมอีก 25 วิธี รวมทั้งการขยายความคุ้มครองประกันภัยทั่วโลกสำหรับเที่ยวบิน โรงแรม และรถเช่า ในส่วนของ TripLink ได้มีการนำเสนอโซลูชั่นการชำระเงินแบบพรีเมียมแก่พันธมิตรการท่องเที่ยวมากมาย
นวัตกรรมทางการตลาด: ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งการโฆษณาทางทีวี และการโฆษณาที่สนามบิน มีอัตราการการลงทะเบียนผู้ใช้ใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นมาก อีกทั้งยังมุ่งมั่นในการทำตลาดในทุกจุดหมายปลายทาง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั่วโลก
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี: การลงทุนในการสร้างศูนย์เทคโนโลยี และการพัฒนา AI ผู้ช่วยการเดินทาง อย่าง TripGenie ที่รองรับการสนทนาด้วยเสียงและข้อความถึง 9 ภาษา โดยจะเพิ่มการรองรับภาษาอิตาลี ดัตช์ และมาเลย์ ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน
การบริการลูกค้า: คะแนน Trustpilot ที่ได้รับการให้คะแนนสูงที่ 4.2 ดาว รวมถึงยังมีการปรับปรุงความสามารถด้าน AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการด้วยการพัฒนาใหม่ๆ ที่หลากหลาย จาก Trip.com ฌพนีย คุณเจน ซัน ยังได้ถือโอกาสขอบคุณพันธมิตรทางธุกิจทุกท่นที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของ GDP ทั่วโลก และที่ Trip.com Group เราภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำในการใช้การเดินทางเป็นสะพานในการเชื่อมโยงผู้คนและความเจริญรุ่งเรือง ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรทางธุรกิจของเรา เราพร้อมที่จะเดินหน้าและพลิกไปสู่บทต่อไปของการเดินทางของเราและเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ ไปพร้อมกัน”
เกี่ยวกับ Trip.com Group
Trip.com Group เป็นผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวแบบครบวงจรชั้นนำระดับโลก ซึ่งประกอบด้วย Trip.com, Ctrip, Skyscanner และ Qunar ซึ่ง Trip.com Group ให้บริการครอบคลุม 24 ภาษา ใน 39 ประเทศ รองรับ 35 สกุลเงิน มีเครือข่ายโรงแรมและเที่ยวบินที่หลากหลายและครอบคลุม ประกอบด้วยที่พักและเที่ยวบินมากกว่า 1.7 ล้านแห่งจากสายการบินกว่า 600 ราย ครอบคลุมสนามบิน 3,400 แห่ง ใน 220 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ช่วยให้นักเดินทางทั่วโลกทำการจองผลิตภัณฑ์และบริการด้านการเดินทางได้อย่างครบถ้วนและคุ้มค่าบนแพลตฟอร์ม Trip.com และยังช่วยให้พันธมิตรสามารถเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายให้เหมาะกับผู้ใช้ผ่านเพื่อการเดินทางที่ครอบคลุม แพลตฟอร์มการให้บริการของ Trip.com ประกอบด้วยแอพพลิเคชั่น เว็บไซต์ และมีศูนย์บริการลูกค้าให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
Trip.com Group ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 ทำการจดทะเบียนใน NASDAQ ในปี 2003 และ HKEX ในปี 2021 และได้กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Trip.com Group ได้ที่นี่: group.trip.com ติดตามเราได้ที่: X, Facebook, LinkedIn และ YouTube
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ:
Trip.com Thailand
ภัสนันท์ ฉันท์เศรษฐ์
อีเมลล์: passanun.chansate@trip.com
โทร: +66 2 700 8600 Ext.165671
