
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เป็นประธานในพิธีส่งมอบรถยนต์และจักรยานยนต์ที่ตกเป็นของกรมสรรพสามิตเพื่อประโยชน์แก่รัฐและส่วนราชการ ที่อยู่ในความควบคุมดูแลของสำนักงานสรรรพสามิตเชียงราย ซึ่งเป็นรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่คดีเสร็จสิ้นแล้ว ตกเป็นของกรมสรรพสามิตจำนวนรวมทั้งสิ้น ๕๘ คัน โดยมี ดร.สุพัชรา บุญเกิดรัมย์ สรรพสามิตพื้นที่เชียงราย กล่าวรายงานและมีคณะผู้บริหารกรมสรรพสามิต ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ จังหวัดเชียงราย และผู้แทนหน่วยงานส่วนราชการ ร่วมเป็นสักขีพยาน

กรมสรรพสามิตภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีภารกิจหลักในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต เพื่อเป็นรายได้ให้แก่รัฐจากสินค้าและบริการที่มีเหตุผลความจำเป็นเฉพาะอย่าง โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายในการบริหารจัดเก็บภาษีจากสินค้าและบริการ ดำเนินมาตรการในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต นอกเหนือจากภารกิจหลักแล้วกรมสรรพสามิตยังมีภารกิจที่สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล บทบาทในด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้กรอบ ESG (Environment, Social, Governance) โดยใช้มาตรการภาษีสรรพสามิต เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

ตามที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น นโยบายกรมสรรพสามิต ให้ความสำคัญในเรื่องค่านิยมร่วม สำหรับองค์กรหรือบุคลากรทุกคนพึงยืดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ ในการนี้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่เชียงราย ได้เล็งเห็นความสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่รัฐ สังคม และแวดล้อม โดยเห็นว่าของกลางประเภทสินค้ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ตกรมสรรพสามิตและได้นำออกขายทอดตลาดแล้ว ส่วนที่เหลือจากการขายทอดตลาดนั้นสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่รัฐและสังคมได้

การปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตในเขตพื้นที่เชียงราย ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่เป็นคดีสินค้าประเภทสุรา ยาสูบ รถยนต์และจักรยานยนต์ โดยได้มีการจับกุมผู้กระทำผิดพร้อมของกลาง ซึ่งในปัจจุบัน มีของกลางที่ต้องเก็บรักษาไว้ โดยเฉพาะของกลางประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ในคดีกระทำผิดกฎหมายในหน้าที่ของกรมสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗ และในคดีกระทำผิดกฎหมายในหน้าที่ของกรมสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖. สืบเนื่องนับตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๕๓ จนถึงปัจจุบันเป็นจำนวนมาก การส่งมอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ตกเป็นของกรมสรรพสามิต ในครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น ๕๘ คัน ประกอบด้วยรถยนต์ จำนวน ๙ คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน ๔๘ คัน มอบให้แก่ สถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาและหน่วยงานส่วนราชการจำนวน ๑๒ แห่งประกอบด้วย

๑. สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อให้นำไปใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนด้านยานยนต์ หรือการฝึกวิชาชีพด้านยานยนต์ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการผลิตและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ส่งผลต่อการนำไปสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีคุณภาพ จำนวน ๙ แห่งได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคเชียงราย วิทยาลัยการอาชีพเชียงราย วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกจังหวัดเชียงราย วิทยาลัยการอาชีพเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย วิทยาลัยเทคนิคเทิง จังหวัดเชียงรายวิทยาลัยดอกคำใต้จังหวัดพะเยา วิทยาลัยสารพัดช่าง จังหวัดลำปาง วิทยาลัยเทคนิคปัว จังหวัดน่าน และวิทยาลัยการอาชีพเวียงสา จังหวัดน่าน

๒. สถานศึกษาสังกัดสำนักเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย จำนวน ๑ แห่งเพื่อ ได้แก่ โรงเรียนแม่เจดีย์วิทยาคม จังหวัดเชียงราย นำไปใช้ในภารกิจของโรงเรียน

๓. หน่วยราชการที่นำไปใช้ในการฝึกอบรมวิชาชีพหรือฝึกฝนอาชีพ จำนวน ๒ แห่ง ได้แก่ มณฑลทหารบกที่ ๓๗ ค่ายเม็งรายมหาราช และ เรือนจำกลางเชียงราย เพื่อนำไปใช้ในการฝึกอบรมวิชาชีพให้กับทหารกองประจำการ และการฝึกวิชาชีพให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ

