คอลัมน์ » ดูชายแดนเชียงราย-สู่เลือกตั้งผู้ว่าฯ

ดูชายแดนเชียงราย-สู่เลือกตั้งผู้ว่าฯ

31 พฤษภาคม 2022
325   0

หลังจากที่ประเทศไทยเราได้เปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวแล้วท่ามกลางการระบาดของ โควิด-19 ยังไม่มีทีท่าจะจบลงง่ายๆก็ตาม รวมทั้งการจะประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นในบางจังหวัดแล้วก็ตามซึ่งจะมีประกาศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามเงื่อนไข ก็ย่อมส่งผลให้สถาการณ์การท่องเที่ยวในห้วงที่ผ่านของไทยพอมีความหวังขึ้นมาบ้างเพราะทุกคนเริ่มตระหนักในการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดมากขึ้นตามสัญชาติญาณของสิ่งที่มีชีวิตนั่นเอง!

อย่างไรก็ตาม สงครามใหญ่ระหว่าง รัสเซีย – ยูเครน ในสหภาพยุโรปที่มีกลุ่มนาโตและประเทศศมหาอำนาจหนุนหลัง (ปัจจุบันนาโตได้รับ ฟินแลนด์ และสวีเดน เป็นสมาชิกเพิ่มเติมแล้วเมื่อ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา) ที่เริ่มมาตั้งแต่ 24 ก.พ. 65 จนมาถึงเดือน ถึงเดือนนี้ก็ร่วม 4 เดือนแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงอย่างไรบางคนบอกว่าได้กลิ่นสงครามโลกครั้งที่ 3 อย่างไม่เป็นทางการแล้ว…เพราะต่างก็ส่งยุทธปัจจัยทางสงครามช่วยกันอุตลุด ด้วยเหตุที่ต่างก็ทระนงตนเองว่า “แพ้ไม่เป็น” ก็เพราะเหตุนี้นี่เองชีวิตมนุษย์และทรัพยากรทั้งหลาย จึงถูกระดมหามาใช้ห้ำหั่นในการสู้รบกันในครั้งนี้อย่างไม่ปราณีกัน

ผลของมันจึงมีผลกระทบสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกในทุกมิติ ทั้งด้าน การเมืองระหว่างประเทศ การเงิน ธนาคาร เศรษฐกิจ สังคม การท่องเที่ยว การติดต่อสื่อสาร การคมนาคม ฯลฯ โดยเฉพาะราคาน้ำมัน ก๊าซ ปุ๋ย ผลิตภัณฑ์การผลิตอาหาร รวมทั้งการท่องเที่ยวที่เป็นตัวเสริมสร้างเศรษฐกิจแต่ละประเทศ อีกทั้ง การระบาดของโควิด-19 ที่กำลังระบาดในหลายประเทศขณะนี้จึงกลายเป็น“ดับเบิ้ลวิกฤติ” (double cricis) ต่อไปต้องระวัง “โรคฝีดาษลิง” (Monkeypox) ให้ดีมันกำลังจะมาอีกแล้ว ประเทศใดที่มีผู้นำมีความรู้ ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ที่ดีก็ดีหน่อย แต่ประเทศไหนมีผู้นำที่ตกยุค ไร้วิสัยทัศน์ ไร้ฝีมือ หวงแต่อำนาจเพื่อความอยู่รอดของตนเองและพวกพ้อง…ประชาชนก็จะลำบากยากแค้นแสนเข็ญแน่…

หันมาใกล้ๆบ้านเราบ้างเกี่ยวกับการท่องเที่ยว แขกคนสำคัญที่สุดของเชียงรายและประเทศไทยคือ “พี่น้องชาวจีน” เมื่อก่อนเราเคยรังเกียจ มีเงื่อนไขเยอะเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เห็นพฤติกรรมด้านต่างๆ …เพราะยังไม่เข้าใจวิถีวัฒนธรรมของเขา …มาวันนี้ต่างก็โหยหาเห็นคนจีนเป็นเทวดาลูกค้าคนสำคัญของการท่องเที่ยวไปแล้ว อีกไม่นานนัก คาดว่าลูกค้ากลุ่มสำคัญนี้จะกลับมาอีก…แต่ต้องรอหน่อย..!?

ช่วงนี้จาก พ.ค.- ก.ค.นี้ เมืองจีนเขาปิดประเทศ ห้ามนักท่องเที่ยวคนจีนและต่างประเทศ เข้า ออก ขนส่งได้เฉพาะสินค้าหากเป็นคนต่างประเทศถ้ามีความจำเป็นต้องผ่านเกณฑ์ที่เข้มงวดมาก  เพราะการระบาดของโควิด-19 ครั้งล่าสุดโดยมีนโยบายให้โควิดเป็นศูนย์แบบไดนามิก ตามแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ (เหมือนผู้รู้ของไทยบางกลุ่มเคยทำ..แต่..ไม่เป็นดังคาด..) ทั้งนี้จากผลการศึกษาของ ม.ฟูตันกับนักวิทยาศาสตร์จีนและสหรัฐอเมริกา หากไม่ทำตามคาดจะมีผู้ป่วยกว่า 2.7 ล้าน และอาจจะมีคนตายกว่า1.55 ล้านคน ปัจจุบันจีนมีประชากรกว่า 1,400 คน  53 ชาติพันธุ์ มีความเจริญก้าวหน้าด้านต่าง ๆ มากมายอย่างก้าวกระโดดจนกลายเป็นมหาอำนาจโลก อันดับ 2 ไปแล้ว ซึ่งผ่านการบริหารมาแล้ว 5 รุ่น รุ่นแรก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1949 (2492) ปัจจุบัน 73 ปี ที่นำโดย เหมา เจ๋อตุง มาจนรุ่นปัจจุบันที่มี สี จิ้นผิง เป็นผู้นำที่สามารถเป็นได้ตลอดชีวิตตามกฎหมายใหม่ของจีนที่ระบุไว้

หันมาดูอาณาจักรใหม่ที่เกี่ยวข้องกับจีนริมน้ำโขง ที่เขาเช่าสปป.ลาว 99 ปี ที่เมืองต้นผึ้ง ฝั่งตรงข้ามสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย บ้าง นอกจากจะเป็นบ่อนคาสิโนครบวงจรและเป็นเมืองใหม่ของจีน ที่มีทุกอย่างครบวงจรแล้ว คนที่เคยไปเที่ยวสามเหลี่ยมทองคำจะมองเห็นฝั่งน้ำโขงอีกฟากที่ฝั่งลาว มีตึกราม บ้านช่อง โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน ในช่วงที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่สนใจเอาตัวรอดจากโควิดฯ แต่ลืมไปว่า ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้ ที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ได้ก่อสร้างสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่คือ “ตลาดฮีตคอง ประเพณี หรือ ตลาดน้ำ” บนพื้นที่ใกล้ โรงแรมดอกงิ้วคำ ตึกสูงเหลืองทองอร่ามตาซึ่งโดดเด่นมากๆ เมื่อมองไปจากฝั่งไทย โดยนายทุนจีน ทุ่มทุนกว่า 3,000 ล้านบาท บนพื้นที่ กว่า 42 ไร่ กำหนดเสร็จปลายปีนี้ ต่อไปจะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ครบวงจรทุกอย่าง จากไอเดียของวิศวกร สถาปนิกชาวจีนผสมลาวที่กลมกลืนธรรมชาติ และวัฒนธรรม ที่งดงามลงตัว ก็จะเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวอีกแห่งใกล้บ้านเรา

            นี่ยังไม่นับรวมการสร้างสนามบินของจีนในลาวที่เมืองต้นผึ้ง ที่เรียกว่า “สนามบินนานาชาติบ่อแก้ว” สนามบินนี้ห่างจากที่ตั้งคาสิโนไปทางตะวันออกราว 5 ก.ม. สามารถรองรับเครื่องบินโบอิ้ง 737ER แอร์บัส A320 A321 หรือ เครื่องบินขนาดไม่เกิน 200 ก่อสร้างเมือปี’ 63 ที่ผู้โดยสารได้ 600 คนในเวลาเดียวกัน หรือปีละประมาณ 1.5-2 ล้านคน เคยทดลองบินโดยเครื่องขนาดเล็กแล้วคาดเปิดบริการนักท่องเที่ยวนักเสี่ยงโชคปลายปีนี้ด้วย

เรื่องนี้เชียงรายจะมีส่วนได้ส่วนเสียอย่างไร…แน่นอนว่าบ้านเราเป็นเมืองชายแดน มีอาณาเขตติดต่อ สปป.ลาว และเมียนมา ตั้งอยู่ในภูมิรัฐศาสตร์ที่ได้เปรียบเป็นศูนย์กลางของ 5 เชียง (เชียงใหม่ เชียงราย เชียงตุง (เมียนมา) เชียงรุ้ง (จีน) และ เชียงทอง (ลาว) รวมทั้งเป็นเมืองหลวงศูนย์กลางของ GMS (Greater Mekong Subregion) หรืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ไทย เมียนมา  ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีนตอนใต้ ที่มีเครือข่ายที่แนบแน่นมาตั้งแต่ปี 2535 ครอบคลุมเนื้อที่ 2.34 ล้าน ตร.กม.  มีประชากรรวมกว่า 257.5 ล้านคน เพื่อส่งเสริมการขยายตัวด้านอุตสาหกรรม ด้านเกษตร การค้า การลงทุนและบริการ หวังให้เกิดการจ้างงาน ยกระดับการครองชีพ การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการศึกษาระหว่างกัน

            เมื่อกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จังหวัดเชียงราย ได้เปิดพรมแดนระหว่าง 2 ประเทศ โดยเฉพาะสปป.ลาว อย่างเป็นทางการอีกครั้งแล้ว ทั้งเขตเชียงแสน และสะพานมิครภาพ ที่ 4 เชียงของ ส่วน เมียนมา คาดเปิด ต้นเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเสริมเศรษฐกิจให้คึกคักเหมือนเดิมหลังจากที่เคยปิดมานานเพื่อป้องกันโควิดฯ   

ลองมองไปดูการเมืองบ้างทั้ง “ระดับชาติและท้องถิ่น” บ้าง ยินดีกับผู้ที่ชนะจากเลือกตั้งครั้งนี้ “การเลือกตั้งซ่อม” (ชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์-สจ.เส็ง) ที่ จ.ราชบุรี เขต 3 เมื่อ 21 พ.ค. และ 22 พ.ค. “การเลือกตั้ง สก. – ผู้ว่าฯกทม. (ชัชชาติ สุทธิพันธุ์) และเมืองพัทยา” (ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์) ที่ผ่านมา….ใครเป็นใครดั่งผลปรากฎแล้ว การศึกครั้งนี้คนไทยผู้สนใจการเมืองคงได้เห็น กลเม็ด เด็ดพราย เล่ห์เหลี่ยม เทคนิค การหาเสียง  สร้างนโยบาย ขายโครงการฯเพื่อเรียกคะแนนเสียง อีกทั้งธาตุแท้ของผู้สมัครบางคน บางกลุ่มรวมทั้งกองเชียร์กันสุดลิ่มทิ่มประตู อีกทั้งบรรยากาศการแข่งขันการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทำหน้าที่อย่างเต็มที่มีชีวิต ชีวา ที่ตื่นเต้น เร้าอารมณ์ จนถึงวันเลือกตั้งจนได้ผู้ชนะเพียง 1 คน จากผู้สมัครหลายพรรคและตัวเลือกอิสระ…สร้างความสนใจของคนทั้งประเทศดีนักแล..!

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้เชื่อว่าจะส่งผลสะท้อนไปถึงการเลือกตั้งใหญ่ระดับชาติที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนี้แน่นอน ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดว่า  ระหว่าง “ผู้รักและชื่นชอบระบอบประชาธิปไตย” กับ  “กลุ่มอนุรักษ์นิยม (ที่บางคน) ผสมเผด็จการ” กลุ่มใดใครจะเป็นที่ยอมรับมากกว่ากัน การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และพัทยา ครั้งนี้ห่างหายมา 9 ปีแล้ว แม้จะเป็นเฉพาะถิ่นก็ตาม แต่เป็นการสร้างกระแสด้านการให้ความรู้ด้านการเมือง การปกครองท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี…จนมีข่าวจากหลายๆ จังหวัดในประเทศไทย ต้องการที่จะ “เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด” ในแต่ละจังหวัดของตนเองด้วย

เพื่อกระจายอำนาจจากส่วนกลางแบบรวมศูนย์มาเป็น “อำนาจจากประชาชนในถิ่น” แต่ละแห่งด้วยเพื่อให้เกิดการแข่งขันซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาบ้านเมืองของตนเอง มีอิสระในการคิด ในการบริหารจัดการด้านต่างๆ โดยคนคุณภาพในจังหวัดที่คัดเลือกมาจากคนในท้องถิ่นโดยตรง ซึ่งเป็นการกระตุ้นการพัฒนาท้องถิ่นขนานใหญ่ในอนาคต..โดยคนท้องถิ่นเองโดยไม่ต้องรองบฯ รอคำสั่งและนโยบายจากอำนาจที่สั่งการมาจากรัฐบาลกลาง ดังที่เห็นและเป็นอยู่ในปัจจุบัน



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า