นายแพทย์โชติพงษ์ ศิริพิพัฒมงคล อายุ 43 ปี ปัจจุบันเป็นอายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จบแพทยศาสตร์บัณฑิตได้รับวุฒิบัตรสาขาอายุรศาสตร์ ปีพุทธศักราช 2551 จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
อาจารย์โชติพงษ์ กลับมาเป็นอายุรแพทย์ท่านเดียวของโรงพยาบาลแม่จัน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 60 เตียง ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2551 ตลอดระยะเวลา 3 ปีได้พัฒนาโรงพยาบาลแม่จันให้มีศักยภาพสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้มากขึ้น โดยการฝึกฝนส่องกล้องตรวจทางเดินอาหารที่มีอยู่เดิมไม่ใช้งาน ภายใต้คำแนะนำของศัลยแพทย์โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์จนสามารถให้บริการผู้ป่วยได้ เปิดบริการล้างไตวันละ 2 รอบจากเครื่องไตเทียม 6 เครื่อง เพิ่มการรักษา STEMIโดยการฉีด streptokinase ที่ห้องฉุกเฉินลด door to needle time (เป็นผลงานที่ได้รับชนะเลิศในงาน national cardiac forum ประเภท poster presentation) และจัดทีมเยี่ยมบ้านผู้ป่วยถุงลมโป่งพองที่ต้อง admit บ่อย นำสู่การจัดผ้าป่าเพื่อหาเงินตั้งธนาคารออกซิเจนสำหรับผู้ป่วย อาจารย์โชติพงษ์ได้รับรางวัลเจ้าหน้าที่ดีเด่นและสร้างชื่อเสียงให้กับโรงพยาบาลแม่จัน ในปีพุทธศักราช 2553 เป็นที่รักของเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย จนมีผู้ป่วยย้ายตามมารักษากับอาจารย์ต่อ เมื่ออาจารย์ย้ายมาอยู่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ในปีพุทธศักราช 2554
เมื่อเรียนจบแพทย์เฉพาะทางโรคระบบทางเดินอาหารอาจารย์โชติพงษ์ได้ทุ่มเทในการพัฒนางานบริการของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ คลีนิกโรคทางเดินอาหารและตับอักเสบ Hepatitis B และ Hapatitis C (ปัจจุบันปีละ 2,000 คนและ 800 คนตามลำดับ) มีการค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ในชุมชน จัดงานส่องกล้องสัญจรปีละครั้ง พัฒนางานส่องกล้องเป็นศูนย์ส่องกล้องฯรวมศัลยแพทย์และอายุรแพทย์ใช้เวลา 6 ปี ด้วยเงินบริจาคจากศรัทธาของประชาชนกว่า 30 ล้านบาท ทำให้สามารถทำ Upper endoscopy 3,000 ราย/ปี. Colonoscopy 1,000 รายต่อปี ERCP 280 รายต่อปี และ endoscopic ultrasonography (EUS) 100 ราย/ปี สำหรับ EUS-guided drainage เป็นความพยายามเริ่มทำโดยอาจารย์โชติพงษ์ โดยยืมเครื่องมือของบริษัท มีทีมศัลยแพทย์เตรียมพร้อมภายใต้คำแนะนำจากอาจารย์ทางศิริราชจนประสบผลสำเร็จอย่างดี นำไปสู่การซื้อกล้อง EUS ด้วยเงินบริจาคในเวลาต่อมา
ผลสำเร็จจากการพัฒนางานส่องกล้องของอาจารย์และทีมงาน สามารถลดเวลานัด scope จาก 6 เดือนลดเหลือไม่ถึง 1 เดือน คนไข้เลือดออกในทางเดินอาหารได้รับการส่องกล้องตรวจภายใน 24 ชั่วโมงถึง 73.3% และ 97.17% ได้รับการส่องตรวจก่อนกลับบ้าน
อาจารย์โชติพงษ์เป็นผู้ที่พร้อมจะเรียนรู้และพัฒนาตนเองเพื่อผู้ป่วยตลอดเวลา เป็นอาสาสมัครรุ่นแรกที่มาช่วยก่อตั้งโรงพยาบาลสนามบุษราคัมเพื่อรับผู้ป่วย โควิด-19 พยายามหาความรู้จนถึงปัจจุบันเป็นแพทย์ 1 ใน 6 คนของจังหวัดเชียงรายที่รับปรึกษาดูแลผู้ป่วย โควิด-19 และยังเป็นอาสาสมัครเฝ้าเด็กทีมหมูป่า 13 คนที่ได้รับการช่วยเหลือจากถ้ำในคืนแรกซึ่งเป็นช่วงที่ยังอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงสูง
อาจารย์โชติพงษ์เป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานให้สำเร็จ แต่ก็พร้อมที่จะรับฟังความเห็นของผู้อื่น สามารถประสานงานกับแพทย์และบุคลากรทุกแผนก สุภาพอ่อนน้อม เป็นที่พึ่งของเพื่อนร่วมงานผู้ใต้บังคับบัญชาและนักศึกษา มีการพัฒนาตนเองและพัฒนางานตลอดเวลา เช่น กำลังพัฒนา program HAPMAN เก็บข้อมูล ค้นหา ติดตามผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ B และ C และวางเป้าหมายพัฒนางาน เพื่อให้โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เป็น Endoscopic training center อีกแห่งของไทยในอนาคต
ด้วยประโยชน์และผลงานต่างๆดังที่กล่าวมานี้ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้นายแพทย์โชติพงษ์ ศิริพิพัฒนมงคล เป็นผู้รับรางวัลอายุรแพทย์รุ่นใหม่โดดเด่น ประจำปีพุทธศักราช 2565
