คอลัมน์ » เริ่มต้นจากตัวตน ชวนทุกคนเป็นคนดี (3)

เริ่มต้นจากตัวตน ชวนทุกคนเป็นคนดี (3)

6 พฤศจิกายน 2023
22   0

บทความเรื่อง “เริ่มต้นจากตัวตน ชวนทุกคนเป็นคนดี”

เพิ่งสร้างพลังบวกให้หมอณุ ในการผ่าตัดครั้งสำคัญ

พวกเราขอส่งบทความที่คุณหมอณุ อยากให้ทุกคนเป็นคนดี

เพราะตกผลึกมาแล้วว่า คนดีสำคัญที่สุด

“ขอบคุณที่เป็นคนดี”

“เริ่มต้นจากตัวตน ชวนทุกคนเป็นคนดี (3)”

ผมได้บอกกับทุกคนว่าในสมัยผมเรียนแพทย์หรือจบมาปฏิบัติหน้าที่เป็นแพทย์เต็มตัวนั้น การแพทย์และสาธารณสุขเป็นเรื่องของคุณธรรมจริยธรรม ผมแสดงภาพหูฟังแพทย์วางบนตำราทางการแพทย์ การดูแลรักษาคนไข้นั้นไม่มีเรื่องของผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง แม้แต่เรื่องรายได้หรือเงินเดือนพวกเราก็ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไร ทำงานกันหนักจนบางครั้งไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน อยู่แต่ในห้องผ่าตัดหรือ รพ. แม้แต่เวลาทานข้าวก็ไม่แน่นอน แพทย์ทุกคนจะใช้เวลาในการทานอาหารน้อยมากส่วนใหญ่ไม่เกิน 10 นาที ทุกคนตั้งใจทำงานเพื่อให้คนไข้หายจากการเจ็บป่วยเท่านั้น

แต่ในปัจจุบันเป็นยุคสมัยแห่งทุนนิยมวัตถุนิยม ผมแสดงภาพให้เห็นว่ามีธนบัตรปึกใหญ่วางทับหูฟังแพทย์ซึ่งวางบนตำราอีกชั้นหนึ่ง ทำให้การดูแลรักษาคนไข้แตกต่างไปจากเดิม เพราะมีการคำนึงถึงเรื่องเงินและผลประโยชน์ตอบแทนมากขึ้น เป็นเหตุให้คนไข้ได้รับการรักษาที่ล่าช้า ไม่เหมาะสมหรือได้รับการส่งตรวจมากเกินความจำเป็น

ผมมักชี้ให้แพทย์รุ่นใหม่ดูว่าพวกเราทำงานเหมือนมีเทวดา นางฟ้าอยู่ข้างหนึ่ง คอยบอกให้เราทำสิ่งดีงาม ทำเพื่อคนไข้โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ ขณะเดียวกันก็จะมีซาตานหรือปีศาจคอยเสี้ยมสอนให้เราทำในสิ่งที่ไม่ดีไม่เหมาะสม ทำโดยหวังผลประโยชน์แอบแฝง ทำให้ชีวิตของพวกเรามีความขัดแย้งในตัวเอง หลายคนที่ยังมีจิตสำนึกที่ดีจะรู้สึกผิดหรือไม่สบายใจเมื่อทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดปัญหาเป็นโรคกระเพาะอาหารจากความเครียดได้บ่อย

ผมจะสะกิดให้ทุกคนได้คิดเองว่าเราโชคดีเพียงใดที่ได้ทำงานในรพ. ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ พยาบาล หรือ จนท.อื่นๆ ต่างมีหน้าที่ช่วยเหลือคนไข้ จึงควรทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อคนไข้ จึงควรมีความสุขในการทำงานถึงจะถูก ผมมักอ้างคำสอนของสมเด็จพระราชบิดาที่ทรงสอนนิสิตแพทย์ว่า “อาชีพแพทย์นั้นไม่ร่ำรวยแต่ก็ไม่ยากจน ถ้าอยากร่ำรวยต้องไปทำอาชีพอื่น เพราะอาชีพแพทย์ต้องมีอุดมการณ์คือ เมตตาและกรุณา”

ผมขอร้องให้รร.แพทย์ทุกแห่งนำไปติดประกาศให้นร., นศ.ได้รู้ตั้งแต่แรก ก่อนตัดสินใจมาเรียนแพทย์ เมื่อเรียนจบแล้วจะได้ไม่ประกอบวิชาชีพเป็นแพทย์เชิงพาณิชย์ที่หวังกอบโกยเงินหรือผลประโยชน์จากคนไข้มากกว่าการเห็นอกเห็นใจ และพยายามทำทุกวิถีทางให้คนไข้หายหรือทุเลาจากการเจ็บป่วยอย่างแท้จริง

ผมจะขอให้ทุกคนคิดย้อนกลับไปเมื่อตอนเรียนจบใหม่ๆ ผมมั่นใจว่าทุกคนต่างสัญญากับตนเองว่าจะเป็นแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกรหรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ดี จะทำงานเพื่อคนไข้ จะทำให้ทุกคนภูมิใจ จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้รุ่นน้อง จะไม่เอาเปรียบคนอื่น ฯลฯ ผมเชื่อว่าไม่มีใครที่ตั้งใจตั้งแต่แรกว่าจะปากร้าย ดุด่าต่อว่าคนไข้ ขูดรีดเงินทองคนไข้หรือทำในสิ่งที่ไม่ดีไม่งามต่อวิชาชีพ

แต่เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี 10 ปี 20 ปี บนเส้นทางเดินของวิชาชีพมีทางแยกมากมาย เราอาจถูกชักจูงให้เดินออกนอกเส้นทาง ผมขอให้ทุกคนคิดเองว่าเรายังคงอยู่ในเส้นทางที่ตั้งใจไว้อยู่หรือไม่ หรือเดินออกไปนอกเส้นทางแล้ว อะไรทำให้เราเดินออกนอกเส้นทางที่ตั้งใจไว้ เมื่อคิดได้แล้วจะกลับมายังเส้นทางเดิมที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ตอนจบใหม่ๆ หรือไม่ ผมเพียงแต่มาสะกิดให้เห็นความจริง แต่ถ้าเราสามารถเปลี่ยนกลับมาได้ คนไข้ย่อมจะมีความสุขมาก เราและคนรอบข้างจะมีความสุขและภูมิใจมากเช่นกัน

ในอดีตความสัมพันธ์ระหว่างคนไข้กับแพทย์และทีมรักษาพยาบาลเปรียบเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน มีความไว้วางใจ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์รุนแรงเพียงใด ต่างเห็นอกเห็นใจและเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปัจจุบันความสัมพันธ์ที่ดีงามนั้นเปลี่ยนแปลงไป อาจเกิดจากธุรกิจทางการแพทย์ หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการแพทย์มากขึ้นในกรณีเกิดเหตุไม่พึงประสงค์จากการรักษาพยาบาลหรือเกิดความเสียหายต่อคนไข้ เมื่อขาดการสื่อสารที่ดีระหว่างคนไข้ ญาติและทีมแพทย์ที่ให้การรักษา เป็นเหตุให้เกิดการร้องเรียนหรือฟ้องร้องได้ ทำให้บุคลากรทางการแพทย์เกิดความเครียด หลายคนทำงานด้วยความหวาดระแวงไม่มีความสุข หลายคนเปลี่ยนอาชีพไปก็มี

ในกรณี “น้องหมิว” รพ.เลยที่ศาลตัดสินให้กระทรวงสาธารณสุขแพ้คดี มีคนโพสภาพผู้รักษาประตูฟุตบอลมาให้พร้อมกับบอกว่า “แพทย์ก็เหมือนผู้รักษาประตู แม้ว่าจะรับบอลได้เป็นร้อยเป็นพันลูกคนไม่สนใจแต่ เมื่อรับพลาดลูกเดียวเป็นที่สนใจขึ้นมาทันที” ผมบอกว่าผมไม่เชื่อ สิ่งที่ผมเชื่อคือ “แม้คนไข้จะจำชื่อแพทย์ พยาบาลที่ดูแลเขาไม่ได้ แต่เขาจะจำความรู้สึกดีๆ ที่ได้รับในยามเจ็บป่วยได้” ผมยังเชื่ออีกว่า “ทุกครั้งที่เราทำสิ่งดีงามจะมีคนได้รับผลเสมอ โดยเฉพาะคนไข้”

ฟลอเร้นซ์ ไนติงเกิล สตรีกับดวงประทีป กล่าวไว้เกือบสองร้อยปีมาแล้วว่า “สิ่งแรกที่จะต้องคำนึงถึงเสมอในรพ. คือต้องไม่ทำให้คนไข้เป็นอันตราย” หรือในปัจจุบันนี้เราจะได้ยินคำว่า “patient safety” อย่างไรก็ตาม อเลกซานเดอร์ โป๊บ กล่าวไว้ร่วมสี่ร้อยปีแล้วว่า “ความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์” อย่าลืมว่าพวกเราทุกคนทำงานในธนาคารชีวิตที่คนไข้เอาชีวิตมาฝากเรา เมื่อเกิดความผิดพลาดย่อมหมายถึงอาจเกิดความพิการหรือเสียชีวิตได้ เราจึงต้องมีระบบป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด หรือมีโอกาสเกิดน้อยที่สุด ผมขอขอบคุณสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล(สรพ.) ที่ได้สร้างระบบคุณภาพให้รพ.ทุกแห่งเพื่อสร้างความมั่นใจให้คนไข้และเจ้าหน้าที่ในด้านความปลอดภัยในการรักษาพยาบาล

เราทำ HA เพื่อคุณภาพรพ.มานานเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างความปลอดภัยได้ทั้งหมด เราไม่สามารถสร้างทุกคนให้มีคุณภาพได้ หลายคนอยู่ในรพ.มีคุณภาพแต่พอออกนอกรพ.เปลี่ยนไป ผมเชื่อมั่นว่า HA สร้างระบบที่ดี แต่ถ้าคนไม่ดีก็ยังทำให้เกิดอันตรายต่อคนไข้ได้

ผมจึงเชื่อมั่นในการทำรพ.คุณธรรม เพื่อสร้างคนให้มีคุณธรรม คนดีนั้นไม่ว่าจะอยู่ในรพ.หรือนอกรพ.ก็เป็นคนดี ผมขอให้ทุกคนทำทั้งงานคุณภาพและคุณธรรม เพื่อให้โอกาสเกิดความผิดพลาดกับคนไข้น้อยที่สุด ดังคำที่ผมพูดอยู่เสมอว่า “รพ.คุณภาพสร้างระบบ รพ.คุณธรรมสร้างคน”

ขอบคุณที่เป็นคนดี”