ประสาสไตล์ปักหมุดการศึกษาฯ ก็บอกตรงๆครับท่าน !
กระผมลุ้นหน้าตานายกรัฐมนตรีคนใหม่ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมาก
ผมถือว่า สยามประเทศ ณ ยามนี้ต้องเร่งอัพเดทองค์ความรู้และบ่มเพาะคุณลักษณะมาตรฐานคนไทยอย่างเต็มคาราเบล….เพื่อเตรียมทรัพยากรคนไทยไว้ต่อกรกับเพื่อนร่วมโลก
สาบานได้ว่า ผมไม่ได้มีประเด็นด้านการเมือง ชอบ ไม่ชอบ ใคร พรรคไหน มันก็ย่อมต้องมีตามประสาคนเข้าคูหากาบัตรเลือกผู้แทนทั้งระดับท้องถิ่นยันระดับประเทศ
แต่ไม่ได้เอาอารมณ์นั้นมาใส่ในอารมณ์นี้ให้มันมีอารมณ์…เชื่อเถอะวิญญูชน !
และแน่นอน ความเป็นประชาธิปไตย ที่แฝงฝังอยู่ในสายเลือดคนไทยเข้มข้นทุกวุฒิภาวะ คุณวุฒิ วัยวุฒิ เพศสภาพ และทุกเจนเนอเรชั่น ก็ย่อมเข้มข้นตามระดับสารตั้งต้นขององคาพยพชีวิต ความคิด ประสบการณ์ และฮอร์โมนส์การแสดงออก
โดยมีกฎหมายกติกาบ้านเมืองคอยเป็นคู่ขนานกำกับการแสดง
ผมไม่รู้ว่า ขณะคอลัมน์ปักหมุดการศึกษา “น.ส.พ.เชียงรายนิวส์” ฉบับนี้ กำลังอยู่ในมือท่านผู้อ่าน ผลการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 3 วาระเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 เป็นฉันใด?
และผมก็ไม่บังอาจพยากรณ์หรือคาดเดา เพราะเคยผิดคาดไปแล้วหลายครั้งหลายคราว จนแม้กระทั่งเกจิหรือกูรูทางการเมือง ณ สยามประเทศนี้หัวทิ่มหัวตำไปหลายคน
เอาเป็นว่า ผมยังยืนยันนั่งยันนอนยันตีลังกายันว่า ศักยภาพ คุณภาพ ประสิทธิภาพ ของประชาชนผู้คนประเทศนี้ในทศวรรษต่อไป ต้องมีคุณลักษณะที่ได้มาตรฐานตามพื้นฐานของความเป็น “ไทย” และเป็น “ไท”
จะหอบหิ้วความทันสมัยและกระแสโลกมาเทียบเคียงมิได้ เพราะที่นี่ “ประเทศไทย” ที่มีต้นทุนอารยะและวิถีชีวิตไม่เหมือนประเทศอื่นใดในโลก
อนาคตและโลกยุคใหม่ การบ้านการเมืองไทยคงมีฉากทัศน์พัฒนากว่านี้ ต้นทุนทางความคิด พื้นฐานทางประชาธิปไตย ประชาชนคนไทยต้องเตรียมพร้อมรับกับกระแสโลกทัศน์ที่หลากหลาย
ตรงนี้แหละ…กระบวนการการศึกษาจึงต้องเข้มแข็ง พรรคการเมืองหรือรัฐบาลใด หากนำลำดับที่นโยบายการศึกษามาไว้ต้นๆของแผนปฏิบัติการพัฒนาประเทศก็น่าจะดี ยิ่งวางแผนระยะยาวเป็น AGENDA วาระเพื่อการศึกษาแห่งชาติ ระดมวิชั่น ระดมทรัพยากร ระดมหน่วยงานมากระเพื่อมการศึกษาให้ถูกทิศถูกทางก็น่าจะเป็นการรังสรรค์และสร้างสรรค์ประเทศให้มั่นคงยงยืน ในระยะยาว
ไม่ต้องมาประสบวิกฤตซ้ำซ้อนซ้ำซาก อยู่ในวังวนวัฎจักรการเมืองแบบไทยๆ ที่ประชาชนคนไทยเคว้งคว้าง ฟัดกันเองด้วยตรรกะและพื้นที่อัตลักษณ์ที่คาบเกี่ยวกับเอกลักษณ์/เอกราช เกาไม่ถูกที่คัน ให้สากลโลกหัวเราะก๊ากยิ้มเย้ย เป็นเหยื่ออารยะโลกขับเคลื่อนไปแบบไม่ควรจะเป็น
ก็เป็นเพียงความคิดความหวังที่ตั้งวางไว้โฟกัสครับ…จะบอกว่าจะขอฝากขอฝังไว้ก็มากเกินไป น่าจะดูเลื่อนลอย จินตนาการปั้นฝันเฉพาะตน อีกอย่างนโยบายเศรษฐกิจ การเงินการทอง น่าจะชูธงมาก่อน เรียกคะแนนให้พรรคการเมืองและรัฐบาลได้เป็นกอบเป็นกำกว่า
ย้อนกลับมาเชียงราย คุณวัลลภ ไม้จำปา ศึกษาธิการจังหวัดเชียงราย แจ้งข่าวมาว่า ขณะนี้จังหวัดเชียงรายมีประกาศแต่งตั้ง อาสาสมัครกระทรวงศึกษาธิการ ประจำจังหวัดเชียงราย (อส.ศธ.) เพื่อทำหน้าที่ในการประสานโรงเรียน ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ทักษะอาชีพ โดยเฉพาะด้านการอ่านออกเขียนได้ และการแก้ไขปัญหาภาวะถดถอยทางการศึกษา ภายหลังวิกฤตโควิด ในโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายและโรงเรียนที่วางแผนกำหนดรายชื่อไว้
กลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้ ล้านเป็นบุคลากรข้าราชการบำนาญ เป็นอดีตผู้บริหารโรงเรียน ครู บุคลากรของจังหวัดเชียงราย และเป็นอาสามัครจิตอาสาจากหน่วยงานอื่นๆ ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ เรียกว่าเป็น “คลังสมอง” ของกระบวนทัศน์การจัดการการศึกษาของจังหวัดเชียงรายก็ว่าได้
ปฏิบัติการระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม 31 สิงหาคม 2566 เป็นช่วงระยะเวลาลงพื้นที่ของอาสามัครฯ เหล่านี้ เพื่อพบปะพูดคุย รับทราบปัญหา และประสานการช่วยเหลือทางด้านการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมดีๆที่ทุกหน่วยงานในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการได้เดินตามพิมพ์เขียว การออกแบบและขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรม
เสร็จสิ้นภารกิจสิ้นเดือนสิงหาคม 2566 สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงรายก็คงได้นำเสนอและรายงานต่อคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดเชียงรายที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานต่อไป
ส่งท้าย “ปักหมุดการศึกษา” กับการรอการอัพเดทการศึกษาไทยไปสู่เป้าหมายคุณภาพคนไทยสู่ประชาคมโลก ด้วยวลีสั้นๆว่า “ภูเขาไม่สูงกว่าปีกนก”
สวัสดีครับ