ลมฟ้าอากาศของเชียงรายและประเทศไทยโดยรวมในช่วงเดือน มี.ค.นี้ มีอะไรที่น่าติดตามไม่น้อยเนื่องเพราะการเกิดภาวะวิกฤติของอากาศในหลายประเทศในขณะนี้ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนก็เนื่องมาจากจากอิทธิพลของภาวะ “โลกร้อน” (Global warming) นั่นเอง ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเรือนกระจก ที่เกิดจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในรูปแบบต่างๆ จากน้ำมือของมนุษย์ที่นับวันจะรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างรุนแรงที่กลายเป็นมลพิษทางลมหายใจในรูป‘เพชฌฆาตมืด’ ที่คุ้นชื่อ คือ PM 2.5 ที่น่าสะพรึง..!? มาเขย่าขวัญเราในทุกๆ ปีช่วงฤดูกาลนี้
จังหวัดเชียงราย ได้ออกประกาศห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิดตามธีม “60 วันปลอดการเผาในพื้นที่เชียงราย” ตั้งแต่ 15 ก.พ. – 15 เม.ย.’65 นี้ เพื่อป้องกันภัยจากไฟป่า หมอกควันและลดมลพิษทางอากาศ โดย มีมาตรการ 6 ประการ ให้ประชาชนทุกคนและหน่วยงานต้องปฏิบัติตาม หากใครฝ่าฝืนมีบทลงโทษหนักแน่ พบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดังนี้ – ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย/สถานีตำรวจภูธรทุกแห่ง สายด่วน 191 – ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า (สบอ.15) สายด่วน 1362 หรือโทร 053-712603 – สายด่วนทางหลวง 1586- สายด่วนทางหลวงชนบท 1146 ผู้แจ้งเบาะแสได้รับเงินรางวัลนำจับจากศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จังหวัดเชียงรายด้วย
อีกเรื่องที่น่าสนใจ หลังจากที่นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจชายแดนรอคอยกันมานานกว่า 3 ปี ที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 เมื่อ 20 ก.พ.’66 ที่ผ่านมา นายสมหวัง บุญระยอง รองผวจ.เชียงราย ร่วมกับ นายอู่มิ้น ไหน่ ผวจ.ท่าขี้เหล็ก (เมียนมา) ร่วมเปิดด่านพรมแดนถาวร สะพานมิตรภาพ ไทย – เมียนมา แห่งที่ 1 (ด่านเก่าแก่) อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมีเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายไทย และเมียนมา ตลอดจนประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ร่วมพิธีอย่างล้นหลาม ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมด้านเศรษฐกิจชายแดนด้านนี้ให้กลับมาคึกคักเหมือนเดิม แต่ในช่วงแรกจะเปิดตั้งแต่เวลา 06.30-18.30 น.จากเดิมเปิดตั้งแต่เวลา 06.30-21.00 น. โดยจะดูสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงในบริเวณดังกล่าวเสียก่อนจึงจะมาเปิดเป็นปกติแบบเดิม
ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะข้ามไปยังฝั่งเมียนมา-ท่าขี้เหล็กต้องเตรียมเอกสารดังนี้ หนังสือผ่านแดน ถ่ายเอกสารใบรับรองฉีดวัคซิน 2 เข็ม หรือผลตรวจ ATK ไม่เกิน 48 ชั่วโมง เป็นภาษาอังกฤษให้จนท.ด่านเมียนมาตรวจด้วยจึงจะมีสิทธิเข้าประเทศ
ครับ…ช่วงนี้ การบ้านการเมืองเป็นเรื่องที่ต้องสนใจเพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวและคู่เคียงเรามาตลอด ประชาชน คนในกรุง ในชนบท แม้ที่อยู่ห่างไกล ต้องตระหนักไว้เสมอว่า การเมืองมีความสำคัญต่อทุกๆ ชีวิต อย่าเพียงคิดว่า…เลือกผู้แทนไปแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น…อย่าลืมว่า การที่ทุกคนที่จะมีชีวิตที่ดีมีคุณภาพ สะดวก สบาย มีโอกาสเท่าเทียมในทุกๆ นั้น อีกทั้งลูกหลานมีโอกาสเล่าเรียน ไม่เหลื่อมล้ำ เรามีงานทำ มีเงินในกระเป่า การค้าขายทั้งในและต่างประเทศรุ่งเรือง ล้วนเกี่ยวข้องกับ “การเมือง” ทั้งสิ้น หากเรารู้จักเลือกผู้แทนที่ดีมีความรู้เข้าใจชาวบ้าน การเมืองนั้นก็จะดีไปด้วย ยิ่งได้ผู้นำประเทศที่ดี มีวิสัยทัศน์ ก็จะพาคนในประเทศก้าวหน้าและพัฒนาด้านต่างๆไปด้วย…นี่..คือความจริง
การเมืองบ้านเราอาจพอสรุปได้ว่า เพราะเราประชาชนไม่สนใจการเมือง และเลือกผู้แทนไม่ดี มีผู้นำไม่เก่ง ไม่มีวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้า จึงส่งผลไม่ดีต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้เกิดความเหลื่อมล้ำและยากจนด้วย อีกทั้ง “การรัฐประหาร” ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยล้าหลัง… เสียเวลา… เสียโอกาส ทั้งยังเป็นตัวขัดขวาง ความเจริญของประเทศในทุกๆ ด้าน การใช้อำนาจทางกฎหมาย เล่ห์เหลี่ยมต่าง ๆ เข้าครอบครอง ทรัพยากรต่างของรัฐไว้อย่างเบ็ดเสร็จ…ยากต่อการตรวจสอบได้ ก็เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจการเมืองนั่นเอง…. ประเทศไทยเรามี “การปฏิวัติทางการเมือง” มาตั้งแต่ย่ำรุ่ง 24 มิ.ย.2575 ที่นักวิชาการเรียกว่า “ปฏิวัติสยาม” (จากระบอบสมบูรณาฯ มาสู่ประชาธิปไตย) การปฏิวัติครั้งนั้น โดยคณะราษฏร์ ประกอบด้วย ผู้นำทางทหาร และพลเรือน หากนับถึงเดือนนี้ (มี.ค.’66) ก็เป็นเวลา 90 ปี 9 เดือนแล้ว
ต่อมาก็มีการ “รัฐประหาร” มาเรื่อยๆ การปฏิวัติในปี 2475 นั้น เปรียบเสมือนการเปิดประตูให้เกิด “รัฐประหาร”(ไม่เรียกปฏิวัติ) ซึ่งเป็นการทำการประหารรัฐบาล นั่นเอง มีการทำมาเรื่อยๆ ล่าสุด เมื่อ 22 พ.ค. 2557 ทั้งหมด 13 ครั้งแล้ว ใครเป็นหัวหน้าฯ สถานการณ์เป็นอย่างไร 8 ปีที่ผ่านมา คงทราบกันแล้ว หลายคนหวาดหวั่นว่าจะมีครั้งที่ 14 หรือไม่…ผู้เขียนคิดว่าคงเป็นเรื่องยากขึ้นแล้วเพราะบริบทต่างๆ ทางสังคมและความเจริญด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่เหมือนโลกยุคนั้น… ในปัจจุบันเรื่องการใช้ google กำลังจะตกยุคแล้ว คนยุคใหม่อีกกลุ่มกำลังให้ความสนใจ การใช้ chat GPT กันแล้ว ซึ่งเหนือกว่า google ไปอีกหลายขั้น แม้เทคโนโลยีจะเจริญแค่ไหน ก็อย่ามั่นใจนักว่ารัฐประหารที่ว่า…จะเป็นไปไม่ได้..!!?)
การเมืองของประเทศเราในห้วงเวลานี้คึกคักมาแล้วหลายเดือนก่อนหน้าที่ จะมีการเปิดอภิปรายครั้งสุดท้ายของฝ่ายค้านภายใต้ยุทธการ “กระชากหน้ากากคนดี” 8 ปีที่ผ่านมา มีหน้าตาเป็นอย่างไรคงเห็นกันแล้ว… อีกทั้งการมีพระราชกฤษฎีกาให้มี ‘การยุบสภา’ และหรือ ‘การหมดอายุ’ (หมดวาระ 4 ปี รัฐบาลไทยชุดที่ 25 ในวันที่ 23 มี.ค.นี้) จึงไม่แปลกที่นักการเมืองต่างๆ มีการย้ายค่าย เปลี่ยนขั้ว ตั้งท่าจะฮั้วกันอยู่หลายพรรค บ้างก็ออกนโยบายเด็ดๆ ลอยๆ ลุยหาเสียงกันอย่างอุตลุด เที่ยวไหว้ เที่ยวกราบกรานชาวบ้านไปทั่ว เพื่อเรียกศรัทธา ผู้นำ ผู้แทน ชนิดไหน ที่ใช่ ก็ต้องให้ความสนใจในวันเลือกตั้งนะพี่น้อง..!!
ในที่สุด…เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอนในเดือน มี.ค.’66 นี้ เมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้ว คาดว่า 8 – 23 มี.ค. จะมีอะไรน่าติตาม ทั้งนี้ นายกฯประยุทธ์ฯ ให้สัมภาษณ์แล้วเมื่อ 21 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า จะยุบสภาแล้ว สื่อหลายสำนักคาดว่า น่าจะเป็น 8 หรือ 15 มี.ค. เพื่อให้มีเลือกตั้งทั่วไปใหม่ ตามที่กกต.กำหนดไว้ในวันที่ 7 พ.ค.นี้ อีกทั้งสภาจะหมดวาระ 4 ปี (หมดอายุ) ในวันที่ 23 มี.ค.หากเป็นตามนี้เราจะได้รัฐบาลใหม่ ในเดือนสิงหาคมโน่น… แต่ต้องระวัง!…ช่วงนี้มีการปล่อยข่าวเพื่อหวังผลทางการเมือง อย่างมีนัยยะ เช่นอาจมี “การยุบพรรคการเมือง” ก่อนเลือกตั้งเพื่อตัดทอนคู่แข่ง หรือต้องการเรียกพวกย้ายพรรค ก็อาจเป็นได้…เพราะระเบียบใหม่ในการยุบพรรคนี้ กกต.ได้ประกาศใช้แล้ว… ช่างน่ากลัวไม่น้อย… เพราะเป็นการยุบพรรคแบบเทอร์โบ..(ความเร็วสูง) มีไทม์ไลน์ที่ชัดเจน…ซะด้วย.. ?!
