เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 เวลา 10.00 น. นาวาอากาศตรีสมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีอากาศยานลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง”
🔹 ในวันอาทิตย์ที่ 31 ก.ค.65 เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการสอบสวนฯ (กสอ.) GO TEAM และตัวแทนจากสายการบินนกแอร์ (Engineering) ได้เดินทางมาถึงสนามบินในช่วงบ่าย (ลงเชียงใหม่ ต่อรถมายังเชียงราย) เมื่อเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ของ กสอ. ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุทันที เพื่อดำเนินการรวบรวม เอกสาร หลักฐาน ภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์หาสาเหตุต่อไป
หลังจากนั้น ได้มีการประชุมวางแผนการเคลื่อนย้ายอากาศยาน ร่วมกับสนามบินเชียงราย โดยได้มีวางแผน สำรวจพื้นที่ และประเมินระยะเวลาในการดำเนินการเคลื่อนย้ายอากาศยานขัดข้อง พร้อมประสานหน่วยงานต่างๆในการสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ ทีมเจ้าหน้าที่ และได้กำหนดเวลาในการเคลื่อนย้าย (หลังจากได้รับอนุญาตจาก กสอ.) เป็นระยะเวลาประมาณ 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-3 ส.ค.65 รวมทั้งได้ออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (Notam) ปิดทางวิ่ง ‼️ แจ้งให้สายการบินที่มีเที่ยวบินบินเข้าออก ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวการจัดสรรเที่ยวบินเพื่อลำเลียงผู้โดยสารตกค้างไปยังสนามบินเชียงใหม่ และนำผู้โดยสารกลับมายังเชียงราย
ต่อมาในเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 31 ก.ค.65 กสอ.ได้อนุญาตให้สายการบินนำกระเป๋าและสัมภาระของผู้โดยสารที่ตกค้างอยู่ภายในอากาศยาน (ภายใต้การกำกับดูแลของ กสอ.) ออกมาเพื่อนำส่งให้กับผู้โดยสารบริเวณพื้นที่ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้า
หลังจากนั้น เวลา 18.00 น.ทางสนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และผู้ประกอบการก่อสร้างที่กำลังดำเนินการก่อสร้างภายในสนามบิน ได้ดำเนินการเข้าปรับปรุงพื้นที่ถนนชั่วคราวบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อเตรียมรอรับทีมเคลื่อนย้ายของการบินไทยที่จะเดินทางมาในวันรุ่งขึ้น จนถึงเวลา 12.00 น.ของวันต่อมา
🔹 สำหรับในวันนี้ วันที่ 1 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่ของสนามบินพิษณุโลก กรมท่าอากาศยาน ได้เดินทางมาถึงพร้อมอุปกรณ์แผ่นปูพื้นที่ใช้สำหรับรองรับการลากจูงอากาศยานขึ้นจากจุดเกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ซึ่งนำทีมโดย ท่านผู้อำนวยการท่าอากาศยานพิษณุโลก ตามมาด้วย
– ทีมเจ้าหน้าที่สนับสนุนการเคลื่อนย้าย (Recovery Team) ของการบินไทย พร้อมอุปกรณ์
– มณฑลทหารบกที่ 37 จังหวัดทหารบกเชียงราย ได้จัดกำลังทหารจำนวน 30 นาย และ
– กองบิน 41 กองทัพอากาศ ได้ให้การสนับสนุนแผ่นปูรองพื้น พร้อมเจ้าหน้าที่ โดย สนามบินเชียงใหม่ เป็นผู้ดำเนินการสนับสนุนการขนย้ายอุปกรณ์จากจังหวัดเชียงใหม่มาถึงเชียงราย และได้เริ่มดำเนินการจัดเตรียมอุปกรณ์ในการเคลื่อนย้ายฯพร้อมปรับแต่งพื้นที่ ภายใต้การกำกับดูแลของ กสอ.
ต่อมาในเวลาประมาณ 16.00 น. ทีมเจ้าหน้าที่ของ ปตท.ซึ่งเดินทางมาจากสนามบินอู่ตะเภา เข้าดำเนินการถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่ยังคงค้างเหลือบนอากาศยานจำนวนหนึ่งตามขั้นตอนในการเคลื่อนย้ายฯ เพื่อความปลอดภัย
ในเวลา 18.00 น. เมื่อได้รับการอนุญาตจาก กสอ. ให้สามารถเข้าไปที่อากาศยานได้ ทีมเจ้าหน้าที่ของการบินไทยเริ่มใช้เบาะลมยกอากาศยานขึ้นเพื่อตรวจสอบความเสียหายและวางแผนในการลากอากาศยานขึ้นมา ซึ่งประมาณ 19.00 น.ก็สามารถยกส่วนด้านหน้าของอากาศยานขึ้นมาได้
แต่ ในเวลาประมาณ 20.00 น.เกิดฝนตกหนักบริเวณสนามบิน ⛈🌧 เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฎิบัติจึงหยุดการปฎิบัติงานเป็นการชั่วคราว
🔹 และ จะดำเนินการลากอากาศยานในเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 2 ส.ค.65 ✈️ ภายใต้การกำกับดูแลของ กสอ.เนื่องจากอากาศยานยังอยู่ในความพิทักษ์ ซึ่งคาดการณ์ (ประเมิน) ว่าจะสามารถลากจูงอากาศยานขึ้นจากพื้นที่ได้ในช่วงเช้า -เที่ยง
ซึ่งหากสามารถลากจูงอากาศยานออกจากพื้นที่เกิดเหตุได้ตามแผนการกำหนด คาดว่าสนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงรายจะสามารถกลับมาเป็นบริการตามปกติ ตามเวลาคือ “ วันที่ 4 ส.ค.65 เวลา 06.00 น. (เวลาไทย) หากไม่มีปัจจัยภายนอกอื่นๆ (สภาพอากาศ) เข้ามาแทรกแซง ‼️
อย่างไรก็ตาม ก่อนการเปิดใช้งานทางวิ่ง จะต้องมีการดำเนินการตรวจสอบความพร้อมของทางวิ่ง ทางขับ ลานจอด และอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้พร้อมใช้งานมีความปลอดภัยตามมาตรฐานสนามบินตามข้อกำหนดของ กพท. ก่อนจึงจะสามารถเปิดใช้งานได้
ท้ายที่สุดนี้ การเคลื่อนย้ายอากาศยานขัดข้อง (Disabled Aircraft Removal) เป็นการดำเนินการที่ต้องอาศัยความร่วมมือของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสิ่งสำคัญ ‼️ ในการวัดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของแผนการเคลื่อนย้ายอากาศยานขัดข้อง คือ ความรวดเร็ว เวลา ความถูกต้องการสั่งการ การติดต่อสื่อาร รวมทั้งที่สำคัญคือ เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย ครับ
*****************
Credit 🙏🏻 GATC Thailand โดย ดร.สิทธิปัฐพ์ มงคลอภิบาลกุล ผู้อำนวยการส่วนมาตรฐานและความปลอดภัย ท่าอากาศยาน ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย