คอลัมน์ » เริ่มต้นจากตัวตน ชวนทุกคนเป็นคนดี (1)

เริ่มต้นจากตัวตน ชวนทุกคนเป็นคนดี (1)

6 กรกฎาคม 2022
397   0

ผมเขียนบทความนี้ขึ้นเนื่องจากคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่คิดถึงแต่ตัวเอง อยากรวยง่าย อยากรวยเร็วและอยากรวยมาก ต่างดิ้นรนกระเสือกกระสนเพื่อให้มีทัดเทียมกับคนอื่นในทางวัตถุ ชอบที่จะทำอะไรตามใจตัวเองโดยไม่คำนึงถึงคนอื่น แม้แต่พ่อแม่พี่น้องของตัวเอง เอาความต้องการทางวัตถุของตัวเองเป็นใหญ่ จนลืมคิดถึงคุณธรรมความดีงาม

หลายคนเกิดมาโชคดีได้เป็นแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีโอกาสสร้างคุณค่าให้ชีวิต ในการดูแลรักษาคนไข้ จากการทำงานหาเลี้ยงชีพทุกวัน แต่บางคนละเลยการปฏิบัติหน้าที่ที่ดีกับคนไข้ จึงอยากเตือนสติให้ทุกคนคิดถึงความดีงามทางจิตใจที่ได้ทำสิ่งที่มีคุณค่ากับคนไข้และคนทั่วไปซึ่งจะคงอยู่กับเราตลอดไป ข้ามภพข้ามชาติ

เช่นเดียวกันกับอีกหลายๆอาชีพที่มีหน้าที่บริการประชาชน ขณะที่ทำงานหาเลียงชีพอย่าลืมสร้างคุณค่าให้ชีวิต ด้วยการทำสิ่งที่ดีงามด้วยหัวใจให้ผู้มารับบริการด้วย

ในการประชุมHA national forum(Hospital Accreditation)ครั้งที่18 ประจำปี2560ณ อิมแพคเมืองทองธานี ผมได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรในห้องประชุมใหญ่แกรนไดมอนด์ ช่วงไมค์ต่อไมค์ จากความตั้งใจของชายคนหนึ่งส่งถึงสังคม ในหัวข้อที่อยากพูดมานาน “เริ่มต้นจากตัวตน ชวนทุกคนเป็นคนดี”

ตั้งแต่ครบอายุราชการ ผมเดินสายบรรยายไปทุกที่ไม่ว่าจะไกลเพียงใดด้วยความตั้งใจที่จะสร้างคนดี ผมพบว่าในปัจจุบันทุกรพ.มีการทำ HA (Hospital Accreditation) เพื่อให้สถานพยาบาลมีคุณภาพ เกิดความปลอดภัยต่อคนไข้ ที่เข้ามารับการรักษา ทุกแห่งมีการสร้างระบบต่างๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งด้านโครงสร้าง งานบริการตลอดจนด้านสิ่งแวดล้อมกันมากมาย แต่ก็ยังไม่สามารถให้ความมั่นใจได้ว่าระบบที่เกิดขึ้นนั้นจะทำให้คนไข้ปลอดภัยไม่เกิดความผิดพลาดอย่างแน่นอน เพราะสำคัญที่สุดคือคนดีมีคุณภาพ ต่อให้ระบบดีเพียงใดถ้าคนไม่ดีย่อมมีช่องทางที่จะหลีกเลี่ยงทำให้เกิดอันตรายต่อคนไข้ได้ แต่ถ้าคนดีแม้ระบบจะยังไม่ดีนัก ก็มีโอกาสเกิดความผิดพลาดน้อยกว่า ผมเชื่อว่า “รพ.คุณภาพสร้างระบบ รพ.คุณธรรมสร้างคน”

ถ้าทั้งระบบดีและคนดีจะสร้างความปลอดภัยให้คนไข้อย่างแน่นอนที่สุด เช่นเดียวกันกับทุกสาขาวิชาชีพต่างก็ต้องการคนดีมีคุณภาพ จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดี ความผิดพลาดจากการทำงานจะลดน้อยลง

ที่สำคัญถ้าคนไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือกฎหมาย หลายครั้งที่ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงเช่นกรณีหมอกระต่ายที่ปฏิบัติตามกฎจราจร ข้ามถนนทางม้าลาย แต่ก็ถูกรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ชนจนกระเด็นศีรษะกระแทกพื้นเสียชีวิต และผู้ที่ขี่รถชนยังเป็นผู้รักษากฎหมายที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ที่ต้องหยุดรถให้คนข้ามถนนทางม้าลายอีกด้วย

หลังครบอายุราชการตั้งแต่วันที่1ตค.2557 ผมบอกกับทุกคนว่าตำแหน่งสุดท้ายของผมต่อไปนี้คือ “ข้าราชการบำนาญของแผ่นดิน” เพื่อเตือนตัวเองให้รู้ถึงบุญคุณแผ่นดินเพราะยังได้รับเงินบำนาญทุกเดือน ซึ่งเป็นเงินภาษีอากรจากประชาชน จึงต้องทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมเพื่อทดแทนคุณแผ่นดินตลอดไป

จากการเป็นแพทย์ ทำให้ได้เห็นสัจธรรมของชีวิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกวัน ได้เห็นความทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยของคนไข้ซึ่งคงไม่มีทุกข์ใดเทียบได้ จึงเกิดความมุ่งมั่นตั้งใจในการเป็นแพทย์ที่ดีของคนไข้

เมื่ออายุได้40ปีหลังจากทำงานสร้างฐานะถึงระดับหนึ่ง มีครอบครัวมีบ้านมีรถและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น ผมเริ่มถามตัวเองว่า “คนเรานั้นเกิดมาทำไม?” ผมจำได้ว่าในเวลานั้นเมื่อเจอเพื่อนที่จบแพทย์เหมือนกันแต่ผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจก็ถามผมเหมือนกันว่า What is life?”

ผมเชื่อว่าหลายๆคนก็คงเคยถามตัวเองเหมือนกัน ผมจำได้ว่าในเวลานั้นมีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาแม่และเด็กของเชียงราย ซึ่งผมเป็นประธานจัดการประชุม ในฐานะกรรมการงานอนามัยแม่และเด็กของจังหวัด มีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเข้าร่วมประชุมจากทุกอำเภอ มีการนำเสนอปัญหาแม่และเด็กและแนวทางการแก้ไขของแต่ละอำเภอโดยมีผมเป็นผู้วิพากษ์ร่วมกับหัวหน้าห้องคลอดรพ.ชร.และหัวหน้าฝ่ายส่งเสริมสสจ. มีแพทย์และพยาบาลจากรพช.ขุนตาล มานำเสนอบนเวทีว่า รพ.ขุนตาลเป็นรพ.น้องใหม่ พบว่ามีปัญหาคนไข้จากหมู่บ้านม้งซึ่งอยู่บนดอย ห่างไกลไม่นิยมมาฝากครรภ์ ทำให้เมื่อมาคลอดที่รพ.เกิดภาวะแทรกซ้อนความดันโลหิตสูง ครรภ์เป็นพิษเกิดอันตรายทั้งแม่และลูก ทางรพ.จึงจัดหน่วยฝากครรภ์เคลื่อนที่ไปให้บริการถึงหมู่บ้าน ไปครั้งแรกก็เกิดปัญหารถเสียกลางทาง ทั้งแพทย์และจนท.ต้องช่วยกันขนเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์เดินขึ้นไปเอง กว่าจะถึงก็บ่ายเมื่อตรวจเสร็จ เวลาใกล้ค่ำมากแล้ว ผู้ใหญ่บ้านไม่ให้เดินทางกลับเพราะกลางคืนเดินทางมีอันตรายเนื่องจากเส้นทางคดเคี้ยวมากจึงจัดที่นอนให้ค้างคืนบนดอย แพทย์และทีมงานต่างพากันเดินสำรวจหมู่บ้านม้ง พบว่าชาวม้งนิยมเลี้ยงไก่มีไข่ไก่มากมายและยังปลูกผักสวนครัวทุกหลังคาเรือน แต่แม่บ้านม้งปรุงอาหารด้วยการต้มเท่านั้น ไข่ต้ม ผักต้ม ทีมงานจึงช่วยกันทำอาหารให้ม้งทานด้วยการทอดไข่เจียวไข่ดาว ผัดผัก และตบท้ายด้วยไข่หวานเป็นของหวาน พบว่าชาวม้งทุกคนรวมทั้งจนท.ต่างทานกันอย่างเอร็ดอร่อย ผมยังจำสีหน้า ท่าทางของแพทย์ที่มานำเสนอได้ว่ามีความสุขและภาคภูมิใจเพียงใด “นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา “ไข่หวาน” ได้กลายเป็นของหวานประจำหมู่บ้านม้ง และชาวม้งให้ความสำคัญกับการฝากครรภ์เป็นอย่างดี ทำให้ลดภาวะแทรกซ้อนได้มาก”

ในขณะที่ผมกำลังคิดว่า “คนเราเกิดมาทำไม?” แพทย์พยาบาลและทีมงานจากรพช.ที่ห่างไกลไปทำกับข้าวให้ชาวม้งทาน ทำให้ผมฉุกคิดได้เลยว่า “คนเรานั้นเกิดมาเพื่อทำสิ่งดีงาม” ขณะที่วิพากษ์ผมมีความสุขมาก น้ำเสียงสั่นเครือ ร้องไห้ด้วยความปิติที่ได้ค้นพบคำตอบ ผมจำได้ว่าผู้เข้าประชุมร่วม300ชีวิตในวันนั้นต่างก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความปิติร่วมกับประธาน

เหตุการณ์ในวันนั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตที่สำคัญ ผมต้องขอบคุณรพช.ขุนตานที่ทำให้ค้นพบคำตอบที่สำคัญ คนเรานั้นไม่ได้เกิดมาเพียงเพื่อทำงานหาเงินเลี้ยงชีวิตและครอบครัว ไม่ว่าเราจะมีอาชีพอะไรหรือทำหน้าที่อะไร ขอเพียงทำสิ่งที่ดีงาม ที่มีประโยชน์ หรือเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นก็ถือได้ว่ามีคุณค่าที่ได้เกิดมาแล้ว

เมื่อตั้งใจว่าจะสร้าง “คนดีแทนคุณแผ่นดิน” ก็มีคำถามว่า “คนดีควรเป็นเช่นไร?” ผมพยายามค้นหาคำตอบอย่างง่ายๆ แต่ก็ไม่ถูกใจ

วันหนึ่งได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการสอบสัมภาษณ์เพื่อเข้ารับราชการของกระทรวงมหาดไทยครั้งแรก ในสมัยรัชกาลที่5 มีสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเป็นประธาน วันแรกมีลูกท่านหลานเธอมาสอบหลายคน แต่ละคนต่างบอกถึงสรรพคุณมากมาย จบจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศ พระองค์ทรงนั่งฟังเฉยๆ วันรุ่งขึ้นมีชาวบ้านแต่งตัวธรรมดาๆมาสอบด้วย พระองค์ทรงสนพระทัยถามว่า “เธอมีความรู้ความสามารถอะไร จึงอยากมาทำงานที่กระทรวงมหาดไทย “ชายคนนั้นตอบว่า” ใต้เท้าขอรับ กระผมเพียงแค่อ่านออกเขียนได้นอกเหนือจากนั้นกระผมรู้น้อยมากคือ รู้ว่าอะไรควรทำกระผมก็ทำ อะไรควรเว้นกระผมก็เว้น” ได้ยินเพียงเท่านี้สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงลุกจากเก้าอี้เดินมาตบไหล่ผลัวะ แล้วตรัสว่า “เธอรู้แค่นี้แหล่ะ พรุ่งนี้มาทำงานกับฉันได้เลย สยามไม่ต้องการคนมีความรู้สูงแต่คุณธรรมต่ำ แผ่นดินนี้ต้องการคนที่รู้ว่าอะไรควรทำก็ทำ อะไรควรเว้นก็เว้น รู้เพียงแค่นี้ก็เป็นคนดีคนงามได้แล้ว”

ผมจึงได้ข้อคิดว่า “คนดี คือคนที่รู้ว่าอะไรควรทำ ทำ อะไรไม่ควรทำ ไม่ทำ” ดังนั้นการเป็นคนดีนั้นทำได้ไม่ยากเลย ทุกคนสามารถเป็นได้ทุกเวลา

ผมเพิ่งได้รับคำตอบว่า “ความดีคืออะไร?” ที่เข้าใจได้ง่ายไม่นานมานี้เอง จากพระราชมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศ วิหาร ท่านเจ้าคุณเป็นศิษย์เก่า รร.เตรียมอุดมศึกษารุ่น 33 ห้องเดียวกัน หลังจากจบวิศวะกรรมศาสตร์จากจุฬาฯ และทำงานเพียง 2 ปี ท่านได้ออกบวช ตั้งใจว่าจะบวชพรรษาเดียว แต่ยังคงอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์มาตลถึงปัจจุบัน

ท่านได้ให้คำจำกัดความของความดีอย่างง่ายๆว่า “ความดีคือสิ่งที่กระทำแล้วก่อให้เกิดประโยชน์ ความเกื้อกูลและความสุขทั้งต่อตนเองและผู้อื่น”

ผมเข้าใจได้ทันทีว่า ความดีทำแล้วต้องเกิดประโยชน์ไม่ใช่โทษ ทำแล้วต้องได้เกื้อกูล ช่วยเหลือ ไม่ใช่ทำร้ายคนอื่นและทำแล้วต้องเกิดความสุขไม่ใช่ความทุกข์ ฟังแล้วเข้าใจได้ง่าย พวกเราสามารถทำความดีได้ทุกเวลาเช่นกัน

“ขอบคุณที่เป็นคนดี”

นพ.พิษณุ ขันติพงษ์



เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า