22 มิ.ย. 64
@วิทยาลัยพยาบาลนครสวรรค์
มีโอกาสมาบรรยายเพื่อปลุกจิตสำนึกให้ผู้บริหารระดับกลางสธ.จำนวน 46 คน ผ่านทางออนไลน์
ภาคเช้า เป็นหัวข้อของธรรมาภิบาลผู้บริหาร
ภาคบ่าย การบริหารท่ามกลางผลประโยชน์ทับซ้อน
ต้นแบบในการเป็นผู้บริหารที่คนทั่วโลกยอมรับ คือในหลวง ร.๙ แม้แต่กษัตริย์ทั่วโลกต่างยกย่องให้เป็น “King of Kings”
เราจะเห็นการเสียสละความสุขส่วนพระองค์เสด็จไปในที่ยากลำบากเพื่อให้พสกนิกรของพระองค์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทรงปฏิบัติเช่นนี้ตลอดชีวิตการทรงงาน 70 ปี หลักการทรงงานที่ผู้บริหารต้องเอาเป็นแบบอย่าง คือ
- ข้อมูลต้องถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา
- input ประหยัด
- process เรียบง่าย
- output ประโยชน์สูงสุด
- ประชาชนเป็นศูนย์กลาง
ผู้บริหารส่วนใหญ่รู้ แต่ไม่ปฏิบัติตามเนื่องจากมีผลประโยชน์ทับซ้อนทั้งต่อส่วนตัวและพวกพ้อง
ผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflicts of interest) หมายถึงมีผลประโยชน์ที่สองเพื่อส่วนตนมาทับซ้อนกับผลประโยชน์ที่หนึ่งเพื่อส่วนรวม จึงทำให้เกิดความเสียหายมากมาย บางครั้งเกี่ยวกับชีวิตคนด้วย
ตัวอย่างของผลประโยชน์ทับซ้อนมีให้เห็นอยู่มากมาย มีทุกวงการทั้งภาครัฐ เอกชน มีให้เห็นในทุกวิชาชีพ
เราพูดเรื่องธรรมาภิบาลมายาวนานแต่ทำไมบ้านเมืองจึงยังสับสนวุ่นวาย?
ทั้งนี้เพราะทุกอย่างยังคงอยู่ในตำรา ส่วนใหญ่นั้นรู้หมดแล้ว แต่ขาดการนำไปปฏิบัติ
ผู้บริหารบางคนอ้างว่า ระบบอุปถัมภ์นั้นฝังรากลึกในสังคมไทยมานาน ผมจึงอยากให้ข้อคิดไว้ว่า
“แล้วทำไมเราจะยอมให้สิ่งที่ไม่ดีนี้ฝังลึกลงไปอีกในยุคสมัยของเราล่ะครับ!”
ผู้บริหารต้องจำไว้เสมอว่า “ยิ่งอยู่ในระดับสูงเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสทำให้เกิดความเสียหายได้มากขึ้นเป็นทวีคูณ” สุดท้ายได้ฝากข้อคิดให้ผู้บริหารทุกคนว่า “ผู้บริหารไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าหาตำแหน่งใด ขอเพียงทำหน้าที่ของเราในเวลานี้ให้ดีที่สุด ตำแหน่งไม่เคยทำให้ใครมีเกียรติ คนต่างหากที่ทำให้ตำแหน่งมีเกียรติ”
“ขอบคุณที่เป็นคนดี”