บินเชื่อมรัก “วันวาเลนไทน์” พี่น้อง 2 นคร..
อุดร-เชียงราย “ไทยเวียตเจ็ท” บรรทุกรัก..สู่ฝัน
“สายการบินของเรา…มีความได้เปรียบคู่แข่งเรื่องราคาที่จับต้องได้..เส้นทางการบินเชียงราย-อุดรก็มีศักยภาพมีผู้โดยสารสัปดาห์เกินคาดหมาย …เป็นที่พอใจของผู้โดยสาร ทั้งประเทศเพื่อนบ้าน…การเดินทางสะดวกสบาย ปลอดภัย..และเป็นเครื่องฯใหม่มาให้บริการ และยังเป็นการบินเชื่อมภูมิภาคทั้งใกล้และไกลด้วย” โทนี่-อนันตชัย วัณณะพันธุ์ ฝ่ายการตลาดเวียตเจ็ทแอร์ ให้สัมภาษณ์ ก่อนอำลากันก่อนส่งขึ้นเครื่องฯในวันนั้นกับคณะสื่อมวลชนเชียงรายที่ร่วมเดินทางไป MEDIA FAM TRIP ที่สนามบินนานาชาติ อุดรธานีเพื่อเดินทางกลับเชียงราย
สายการบิน “ไทยเวียตเจ็ท” หรือ “เวียตเจ็ท” ร่วมมือกับสมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์ เชียงราย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย (ททท.เชียงราย) จัดกิจกรรมตามโครงการ MEDIA FAM TRIP เพื่อสานสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว ระหว่าง 2 จังหวัด คือ จ. เชียงราย และ จ.อุดรธานี โดยมีสื่อมวลชนสาขาต่างๆ 21 คน เดินทางยังจังหวัดอุดรธานีด้วย เมื่อ28-30 ม.ค.(63 ) ที่ผ่านมา
กล่าวสำหรับ 2 จังหวัดเชียงราย และอุดรธานี ต่างเป็นจังหวัดที่น่าสนใจ ด้านในตัวเมืองต่างก็ปกครองในรูปของเทศบาลนครทั้งคู่ (เทศบาลนครเชียงราย – เทศบาลนครอุดรธานี) เพราะต่างก็เป็นเมืองใหญ่มีองค์ประกอบครบตามกฎหมาย พร้อมทั้งมีทรัพยากรการท่องเที่ยวทั้งทางด้านกายภาพและทางวัฒนธรรมที่หลากหลายน่าสนใจมากมายพอๆ กัน ซึ่งปัจจุบันสายการบิน “เวียตเจ็ท” เป็นสายการบินแรกที่เปิดเส้นทางการบินระหว่าง 2 จังหวัดนี้ อาจกล่าวได้ว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทาง “สายธรรมะและวัฒนธรรม” ก็ว่าได้ ใช้เวลาเดินทางราว 50 นาที เท่านั้น หลังจากสายการบินนี้เปิดมากว่า 3 เดือนได้รับความสนใจจากผู้โดยสารทั้ง 2 จังหวัดและใกล้เคียงทั้งพี่น้อง สปป.ลาว เกินคาดหมาย จนมีโครงการจะเปิดเพิ่มเที่ยวบิน จากเดิม 3 วันต่อสัปดาห์ เป็นบินทุกๆ วัน ซึ่งเริ่ม 14 กุมภาพันธ์ 63 ซึ่งเป็น “วันวาเนไทน์” เป็นต้นไป ตามแผนการบินฯ
นายโชติศิริ ดารายน นายกสมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์เชียงราย และในฐานะบก.นสพ.“เชียงรายนิวส์” เปิดเผยว่า การเดินทางไปครั้งนี้นอกจากกลุ่มสื่อมวลชนจากเชียงรายแล้วยังมี น.ส.กรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย เดินทางร่วมไปด้วยเหมือนเป็นทูตเชื่อมไมตรีเพื่อร่วมมือด้านต่างๆ กับ นางภาวนา ประจิตต์ ผอ.ททท.อุดรธานี และ นางบุหลัน ดวงวันทอง รองผอ.ฯ ซึ่งได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดียิ่งในทุกๆ เรื่องอย่างอบอุ่นเสมือนญาติพร้อมให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวของอุดรธานีอย่างครบครันและยังบอกว่า ดูแลด้านนี้อยู่ 3 จังหวัด คือ อุดรธานี บึงกาฬ และหนองคาย ตั้งเป้าว่า ว่าตลาดในประเทศต้องมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 8% เป็นอย่างน้อยในปีนี้
“ที่สำคัญที่สุดของงานนี้ คือคณะสื่อมวลชนได้รับความอนุเคราะห์ในการเดินทางไปและกลับได้รับความอนุเคราะห์จาก สายการบิน “เวียตเจ็ท” ที่มี โทนี่-อนันตชัย วัณณะพันธุ์ ฝ่ายการตลาดเวียตเจ็ท และ มายด์-ภัสนันท์ หนูเนียม Marketing Content Editor and PR Executive ตัวแทนของ“เวียตเจ็ท” เดินทางร่วมไปด้วย ทั้งอำนวยความสะดวกในการติดต่อประสานงานที่ศึกษาดูงานตลอดทั้ง 2 วัน ซึ่งสร้างความประทับใจแก่คณะสื่อมวลชนเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้ สายการบิน“เวียตเจ็ท”ได้เปิดบริการการบินเชื่อม 2 จังหวัด (เชียงราย-อุดร) 3 วันต่อสัปดาห์ และจะเพิ่มเป็นทุกๆ วันในเดือน ก.พ.’63 เป็นต้นไปแน่นอน เพื่อรองรับผู้โดยสารให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกินคาดหลังเปิดบินมาได้ราว 2-3 เดือนเท่านั้น ปัจจุบันมีการบินเชื่อมในประเทศอยู่หลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ ส่วนในเมืองไทย เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมาได้เพิ่มเที่ยวบิน กทม.(สุวรรณภูมิ)-เชียงราย อีกเป็น 4 เที่ยวบินแล้ว จากเดิม 3 เที่ยวบิน รวมทั้ง เชียงราย-อุดรฯจากเดิม 3 เที่ยวเป็นทุกๆ ตามความต้องการผู้โดยสารซึ่งเติบโตเร็วอย่างไม่น่าเชื่อซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี
“ในขณะเดียวกันการเดินทางไปครั้งนี้เรื่องที่พักและอาหารนั้นยังได้รับความอนุเคราะห์และให้การต้อนรับเป็นกรณีพิเศษจาก ต๊อบ– พศิน มณีศรี ผอ.ฝ่ายปฏิบัติงานโรงแรมบราวน์เฮ้าส์ โฮเทล หรือ BROWN HOUSE HOTEL simply isaan way (โทร.042-222668 หรือ www.brownhousehotel.com) โดยโรงแรมนี้เป็นที่นิยมชมชอบของนักท่องเที่ยวมากเพราะมีสภาพแวดล้อมที่ดีและอิงแอบกับธรรมชาติและประยุกต์พร้อมอนุรักษ์วัฒนธรรมอีสานไว้ในหลายเรื่องอย่างกลมกลืน ผู้ที่ไปพักยังได้ความรู้อีกด้วยซึ่งบริหารโดยคนรุ่นใหม่ทั้งสิ้น” นายโชติศิริ กล่าว
ด้าน “ต๊อบ- พศิน” หนุ่มหล่อคนรุ่นใหม่วัยย่าง 40 ฐานะหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติงานโรงแรมฯด้วย… ผู้เขียนเอง…ชื่นชมในการทำงานแม้ว่าเขาจะมีตำแหน่งระดับบริหารแต่ก็ทำตัวเป็นกันเองอย่างกลมกลืนเหมือนกับพนักงานของโรงแรมทั่วๆ ไป ตั้งแต่การยกอาหาร แก้วน้ำ เสิร์ฟแขก ยกกระเป๋าขึ้นรถบริการแขกที่ไปพัก เขายังให้ข้อมูลต่างๆ กับผู้เขียนว่า รูปแบบการดีไซน์ของโรงแรมทั้งหมดเป็นความคิดของเขาเอง ฐานะที่เขาเองมีความรู้ด้านวิศกรรมและสถาปัตยกรรมพอสมควรและเป็นยังแนวคิดจาก กลุ่ม BLU MONKEY (ภูเก็ต) ที่ทำธุรกิจด้านนี้มายาวนาน ภายใต้แนวคิด Attitude stay (ทัศนคติที่มีสไตล์) ซึ่งเป็นกระแสของโลกในปัจจุบัน ด้วยการนำเอาวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมของท้องถิ่นมาผสมผสานประยุกต์ให้กลมกลืนโดยให้ผู้ไปพักได้ศึกษาเรียนรู้กับภูมิปัญญาของท้องถิ่นไปด้วย ผอ.ฝ่ายปฏิบัติงานโรงแรมฯกล่าว
ส่วน…ผู้เขียน…มองว่า สไตล์อันเป็นเสน่ห์ของโรงแรมแห่งนี้ เชื่อว่าจะเป็นที่ประทับใจเขียนตั้งแต่ สถานที่ตั้งที่เป็นเป็นเสน่ห์ตังใกล้ริมฝั่งหนองน้ำ ชื่อ หนองเหล็กในหมู่บ้าน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรฯ ที่พนักงานขับรถรับจ้างบอกกัยพวกเราว่า …เป็นโรงแรมที่ไปถึงยากนิดหน่อยหากไม่เคยไป เพราะมีหลายเลี้ยวและโค้งทั้งซิกแซกในหมู่บ้าน.. แต่มีคนมาพักมากที่สุด..!! การตกแต่งแลนด์สเคปทั่วไป ฟร้อนต์โรงแรม ลอบบี้ ห้องนอน ห้องอาหาร “ทุก ๆ อย่างมีดีไซน์” อาหารที่เป็นดาวเด่นท้องถิ่น และ ประเภทฟิวชั่น – การ์เดี้ยน มีพร้อม การนำวัสดุ พืชผัก พืชพรรณ ประจำในท้องถิ่นมาประดิดประดอยบนจานอาหารในงานเลี้ยงรับรองอย่างลงตัวและได้บรรยากาศอีสานๆ เชื่อได้ว่าผู้ไปพักที่นี่จะได้รับสุนทรียรสและกลิ่นอายด้านวัฒนธรรมทั้งความรู้ด้านต่างๆ ของท้องถิ่นไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว… ส่วน “ต๊อบ– พศิน” เองก็เปรยๆว่า กำลังมองหาโรงแรมที่เชียงรายสักแห่ง เพื่อจะนำทีมมาบริหารในสไตล์แบบนี้ ..หากเจ้าของโรงแรมใดที่ไม่ต้องการบริหารแล้ว สนใจติดต่อได้ซึ่งมีระยะเช่าบริหาร 15 ปี เป็นอย่างน้อย..เจ้าของโรงแรมใดใครสนใจเชิญคุยได้ตามที่อยู่ของโรงแรมฯ
เกี่ยวกับทรัพยากรท่องเที่ยวของ จ.อุดรธานีนั้น เนื่องจากเป็นจังหวัดใหญ่ กว่าเชียงรายด้านเขตปกครอง มี 20 อำเภอ (เชียงราย 18 อำเภอ) จึงไม่แปลกที่แต่ละอำเภอต่างมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติและวัฒนธรรมมากมาย แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงเพียงบางแห่งที่คณะสื่อมวลชนจากเชียงรายได้ไปเยือนเท่านั้น เช่นที่ ทะเลบัวแดง วัดศิริสุทโธคำชะโนด วังนาคินทร์ (คำชะโนด) สวนดอกไม้บ้านห้วยสำราญ พิพิธภัณฑ์เมืองอุดร และศูนย์วัฒธรรมไทย-จีน เป็นต้น
กล่าวสำหรับ “ทะเลบัวแดง และวัดศิริสุทโธคำชะโนด หรือ ‘วัดคำชะโนด’ วังนาคินทร์ ” ในเชิงภูมิศาสตร์ มีเรื่องน่าศึกษาเกี่ยวกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางกายภาพที่สำคัญที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ไว้ให้เรา ดังนี้
“ทะเลบัวแดง” เป็นทะเลน้ำจืดบึงหนองหานกุมภวาปี อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี (หนองหาน เป็นชื่อหนองน้ำที่ปรากฏ 2 จังหวัด คือ อุดรธานีและสกลนคร) เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติอีกแห่งของไทย มีพื้นที่กว่า 22,700 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ ในเชิงธรณีวิทยาเกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกอยู่ในแอ่งสกลนคร (อีสานมี 2 แอ่ง (Basin) ใหญ่ๆ คือ แอ่งโคราช และแอ่งสกลนคร ซึ่งครอบคลุมหลายจังหวัดทั้งอีสานเหนือ กลาง ใต้ มีเทือกเขาภูพาน และเพชรบูรณ์ ดงพญาเย็นเป็นขอบแอ่ง) ทะเลบัวแดงนี้ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ ทุกปีในช่วงปลายเดือน พ.ย.- ต้น มี.ค. จะมีดอกบัวสีชมพู บ้างก็เรียกบัวแดง ออกดอกสะพรั่งพร้อมๆ กัน เป็นบริเวณกว้างใหญ่ละลานตามองจนสุดลูกหูลูกตา ซึ่งอยู่ในห้วงเวลาไม่นานนักราว 2-3 เดือน ในรอบปี อาจกล่าวได้ว่ามีเฉพาะฤดูกาลไม่กี่เดือน ที่นักท่องเที่ยวต้องรีบไปสัมผัสบรรยากาศและเซลฟี่ โดยเฉพาะสายแช้ะ…ไม่ควรพลาด มีหลากหลายมุมที่เป็นเสน่ห์แห่งบึงน้ำทะเลบัวแดงแห่งนี้ แถมยังมีตำนานที่เป็นสตอรี่ “ผาแดง-นางไอ่” ให้ศึกษามาแต่โบราณกาล ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกที่สุดอีกแห่งที่สร้างรายได้และเศรษฐกิจชุมชนซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ “กลุ่มวิสาหกิจชมชน” กลุ่มเรือประมงและนำเที่ยวทะเลบัวแดง ให้บริการทุกวันในราคาที่นักท่องเที่ยวรับได้ในการนั่งชมดอกบัวในห้วงเวลาที่กำหนดมีเรือนำเที่ยวทั้งหมด 6 ท่าเรือ คอยให้บริการใครไปเห็นแล้วต้องยกนิ้วให้
‘วัดคำชะโนด’ วังนาคินทร์ “วัดคำชะโนด” บ้านโนนเมือง ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ชื่อกันว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของพญานาค ที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดีโดยเฉพาะผู้ชอบเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคในทุกๆ 15 วันของเดือน หนองคำชะโนด หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า บ่อเมือง เป็นป่าที่มีน้ำท่วมขังตลอดปีและปกคลุมด้วยไม้ยืนต้น โดยเฉพาะไม้เด่น คือ “ต้นชะโนด” ไม้ยืนต้นชนิดนี้พบบริเวณป่าพรุทางภาคใต้ของประเทศไทย และต้นปาล์มชนิดนี้พบได้แห่งเดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ “ป่าพรุคำชะโนด” จ.อุดรธานี เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ (wet land) ลักษณะเป็นเกาะกลางน้ำ มีระบบนิเวศวิทยาที่น่าสนใจ มีพืชพรรณ นก ปลา ประจำถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์น่าสนใจมาก โดยเฉพาะ “ต้นชะโนด” (มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Livistona saribus) ซึ่งเป็นพืชในตระกูลปาล์ม เป็นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึงของลุ่มน้ำสงครามตอนบนซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำโขง
ภายในพื้นที่ประกอบด้วยบริเวณป่าพรุ มีต้นชะโนดเกิดขึ้นรวมกันเป็นกลุ่มประมาณ 20 ไร่ – พรรณพืชบนพื้นที่ป่าพรุ (เกาะคำชะโนด) ที่มีน้ำล้อมรอบ พบจำนวน 27 ชนิด ได้แก่ ต้นชะโนด มะเดื่อขน (ต้นไม้ที่ผู้ไปแสวงบุญเสี่ยงโชครู้จักดี) ผักกูด ผักหนาม เป็นต้น ตันชะโนดนี้จะพบได้ในเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และปลายสุดของแหลมในทวีปแอฟริกา ลักษณะเป็นปาล์มชนิดหนึ่งไม่มีหนาม มีใบเหมือนใบตาล ลำต้นเหมือนต้นมะพร้าว ลูกเป็นเม็ดเล็กๆ คล้ายหมาก สูงเต็มที่ประมาณ 30 เมตร ในประเทศไทยเป็นพืชที่หายาก มีมากที่สุดอยู่ที่นี่เท่านั้น เรียกว่า ป่าคำชะโนด ทางใต้ จ.นราธิวาสเรียกว่า “ค้อ” หรือ “สิเหรง” (บางส่วนอ้างใน http://wetland.onep.go.th/) และยังเหมือน “ค้อดอย” ของทางภาคเหนือที่มาจากสังคมพืชป่ากึ่งอัลไพน์ (Sub- alpine Vegetaion) ทางภูมิศาสตร์ระบุว่าเกิดจากการ Migration จากที่อื่นมาอยู่ในที่มีอุณหภูมิและระบบนิเวศที่เหมาะสมเหมือนกับการเกิดสังคมพืชต้นเมเปิล (มีถิ่นกำเนิดจากไม้เมืองหนาว)ใบสีแดงสดสวยที่ภูกระดึง จ.เลย อย่างที่ทราบกันมานานแล้ว
นี่…เป็นเพียงตัวอย่างที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้ความรู้และแสวงบุญเสี่ยงโชคของนักท่องเที่ยวหลายเพศหลายวัยตามความเชื่อและศรัทธาของใครของมันตามที่ปรารถนา…ทว่า การเดินทางไป-มาระหว่างบ้านพี่เมืองน้อง 2 นคร (เชียงราย-อุดรฯ)ในวันนี้สะดวกสบายและประหยัด ปลอดภัย ด้วยสายการบิน “เวียตเจ็ท” ที่เปิดบริการทุกวันแล้ว….
สุดท้าย…ลองมาดูจุดเด่นของ “เวียตเจ็ทกรุ๊ป” เป็นสายการบินสายแรกของเวียดนามที่ดำเนินการสายการบินยุคใหม่ ในการบินเสรีใน กลุ่มประชาคมอาเซียน ที่ใช้เทคโนโลยีการบินผสานกับอีคอมเมิร์ซในยุคดิจิทัลเพื่อบริการผู้โดยสาร เมื่อเร็วๆนี้ สายการบินเวียตเจ็ทได้รับการบรรจุเป็นสมาชิกของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ “ไออาตา” (International Air Transport Association : AITA) โดยสมบูรณ์แล้ว หลังจากได้ใบรับรองการบริหารความปลอดภัยของสายการบินจาก AITA เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ “เวียตเจ็ท” ยังได้รับรางวัล “สายการบินต้นทุนต่ำพิเศษยอดเยี่ยมแห่งปี 2018-2019 (Best Ultra Low-Cost Airline 2018-2019) และที่สำคัญคือยังได้รับการจัดอันดับด้าน “ความปลอดภัยระดับ 7 ดาว” อีกด้วย (ข้อมูลเอกสาร Press Release ฝ่ายการตลาดเวียตเจ็ท 28 ม.ค.63) เห็นหรือยังว่า…เขามีดีจริงๆ ..!
————————————————————-
สุรพล เวียงนนท์ …เรื่อง / ภาพ