เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2563 ที่โรงแรม เดอะริเวอร์รี บายกะตะธานี นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นำคณะสื่อมวลชนทั้งจากส่วนกลางและภูมิภาครวมกว่า 80 คน ร่วมงานแถลงแผนกลยุทธ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 2563 ครบรอบปีที่ 45 สร้างการเติบโตไปพร้อมกันทั้งตลาดทุน สังคม และประเทศชาติ
โดยกลยุทธ์สร้างความเป็นอยู่ที่ดีของคนไทย (Growing Together for Inclusive Well-being) ปรับรูปแบบการทำงานและขยายธุรกิจ ภายใต้กรอบกลยุทธ์ระยะ 3 ปี (2563-2565) มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและต่อยอดธุรกิจใหม่ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันโลกมีพลวัตการเปลี่ยนแปลงที่ต้องเตรียมพร้อมรับมืออย่างต่อเนื่อง ทั้งสถานการณ์ต่างประเทศ ในประเทศ และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ซึ่งในปี 2563 นี้ จะเป็นปีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินงานมาครบ 45 ปี จึงมุ่งเน้นการเติบโตแบบ Inclusive Well-being สร้างการเติบโต ไปพร้อมกันทั้งตลาดทุน สังคม และประเทศชาติ อย่างมีสมดุล มีคุณภาพและยั่งยืนในระยะยาว เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของคนไทย เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถก้าวข้ามผ่านช่วงของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี และความผันผวนในเวทีโลกที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม
โดยมีกลยุทธ์ 3 ด้าน ประกอบด้วยความเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ ปรับรูปแบบการทำงานและขยายธุรกิจด้วย การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกันได้อย่างมีคุณภาพ ขณะเดียวกันยังคงมุ่งเน้นลดความซ้ำซ้อนของกระบวนการและกฎเกณฑ์ต่างๆ และการให้บริการในรูปแบบ One-Stop Service แก่บริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการนำข้อมูล มาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงตามความต้องการ รวมถึงสร้างฐานข้อมูลที่ให้อุตสาหกรรมได้นำไปใช้ต่อยอดและประโยชน์ร่วมกันอีกด้วย และความเจริญเติบโตด้วยการสร้างโอกาสใหม่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะมุ่งเน้นความเชื่อมโยงกับตลาดทุนในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่เป็นกระแสพลวัตรทางเศรษฐกิจที่ถูกจับตามมองจากนักลงทุนทั่วโลก
รวมทั้ง ยังมีแผนงานที่จะขยายโอกาสการระดมทุนของธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) รวมถึงสตาร์ทอัพ (Startups) อีกทั้ง ความเจริญเติบโตไปด้วยกันกับผู้ร่วมตลาด และสังคมอย่างยั่งยืน ปรับปรุงกฎเกณฑ์ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจให้ง่ายและสะดวกมากขึ้น และการคุ้มครองผู้ลงทุน พร้อมสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ผู้ร่วมตลาดได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ลดต้นทุนการทำธุรกิจให้แก่อุตสาหกรรม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและแพลตฟอร์มกลางของตลาดทุน และการเสริมความปลอดภัยทางไซเบอร์ การสร้างช่องทางใหม่ในการลงทุนให้สะดวกมากขึ้น รวมถึง การส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และสร้างผลลัพธ์ทางสังคม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างสมดุลและมีคุณภาพ
พร้อมกับการปรับแนวทางการพัฒนาความรู้การออมและการลงทุนภาคประชาชน และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในทุกมิติ ทั้งนี้ ยังได้สรุปพัฒนาการสำคัญและความสำเร็จปี 2562 ในด้านธุรกิจ และด้านคุณภาพ ให้แก่สื่อมวลชนที่สนใจเข้าร่วมงานอีกด้วย