เชียงราย เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในสภาพภูมิศาสตร์ที่ดีมีเทือกเขาสูงและแอ่งที่เป็นพื้นราบรวมทั้งลุ่มน้ำที่อุดมสมบูรณ์และยังได้เปรียบในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ที่สามารถติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านได้ทั่วโลกหากเริ่มต้นที่เชียงราย รวมทั้งสภาพอากาศเมื่อพิเคราะห์จากตำแหน่งที่ตั้งก็อยู่โซนที่เรียกว่าอยู่ในลักษณะเปลี่ยนผ่านและคาบเกี่ยวไม่ห่างไกลมากระหว่างเขตร้อนกับเขตอบอุ่นหากดูจากตำแหน่งละติจูด – ลองจิจูด จึงมีอิทธิพลต่อสภาพภูมิอากาศที่เกี่ยวโยงถึงความหลากหลายทางชีวภาพและพืชพรรณต่างๆมากมาย
ด้วยเหตุนี้นี่เอง…พื้นที่ในเขตเชียงรายจึงมีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของพืชเมืองร้อนและเมืองหนาวได้อย่างมหัศจรรย์ ต่อมาในระยะหลังๆใครนำพืชเศรษฐกิจมาปลูกที่เชียงราย จึงมีผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ รวมทั้งพืชที่มีอยู่ดั้งเดิมด้วย การปลูกพืชบนที่สูงและพื้นราบที่ได้ผลดีในเชียงรายสารพัดชนิด โดยเฉพาะการปลูกชาและกาแฟบนดอยต่างๆก็ได้ผลดีมีชื่อเสียงระดับโลก
ย้อนไปเมื่อ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆในเชียงรายทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แถลงข่าว การจัดงาน มหกรรมเทศกาลชาและกาแฟเชียงราย 2019 ชื่อ “เมืองแห่งชาและกาแฟเชียงราย” ตลอดเดือนก.ค.นี้ มีกิจกรรมแบ่งเป็นส่วนๆน่าสนใจยิ่ง ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจท้องถิ่นเชียงรายในช่วงที่เป็นโลว์ซีซั่นนั่นเอง ปกติช่วงนี้จะเป็นหน้าฝนคนไม่นิยมเที่ยวกันแต่เชียงรายก็เอาวิกฤติมาเป็นโอกาส เรียกชื่อซะเก๋ว่า “กรีนซีซั่น” (Green season) มองไปไหนก็มีแต่ความเขียวขจีทั้งผืนป่า ภูเขาและท้องนา รวมทั้งไร่ชาและกาแฟก็ด้วย…
เริ่มสัปดาห์แรกเริ่มต้นของเดือน ก.ค. (62) ททท.เชียงราย ร่วมกับกลุ่มคนรักกาแฟเชียงราย และสายการบินแอร์เอเชีย ชวนนักท่องเที่ยวมาชิมกาแฟกว่า 40 ร้านในเชียงราย ใครชิมแล้วต้องมีตราสัญลักษณ์ประทับครบ 6 ตรา เพื่อรับของที่ระลึกและลุ้นรับตั๋วบินในประเทศจากแอร์เอเชีย
ต่อมาสัปดาห์ที่ 2 จัดประชุมนานาชาติและการประชุมการค้าการลงทุนอุตสาหกรรมชากาแฟในกลุ่มอาเซียนบวก + 6 ระหว่าง 10-12 ก.ค. ที่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) เพราะที่นี่เขามีสถาบันวิจัยฯเกี่ยวข้องโดยเฉพาะและต่อด้วยงาน “เชียงราย อาเซียน คอฟฟี่ แอนด์ ที เฟสติวัล 2019” (Chiang Rai ASEAN Coffee &Tea Festival) ระหว่างวันที่ 12-16 ก.ค. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงราย
สัปดาห์ที่ 3 กิจกรรมเจริญสติกับการดื่มชา ระหว่าง 16-17 ก.ค. ที่ศูนย์ประชุมวิปัสสนาสากล ไร่เชิญตะวัน ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย โดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี และคณะจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและฝึกฝนให้จิตเป็นสมาธิ
และสัปดาห์ที่ 4 สุดท้าย เป็นการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์โดยสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย ร่วมกับพันธมิตรและร่วมทำกิจกรรม Workshop Trip ภายใต้ชื่อ Forest Tea Artisan Ep.1 สีสันแห่งชา ระหว่าง 26 -28 ก.ค. (62) โดยสวรรค์บนดินและไร่รื่นรมย์ สร้างสรรค์เมนูจากยอดใบชาอินทรีย์ในป่า ที่ หมู่บ้านหินลาด เชียงราย
ทั้งหมดคือกิจกรรมที่น่าสนใจหากศึกษาทางข้อมูลพบว่าพื้นที่ปลูกชาในจังหวัดราว 53,000 ไร่ มีผลผลิตปีละกว่า 30,000 ตัน ส่วนกาแฟมีการปลูกราว 38,000 ไร่ ได้ผลผลิตปีละกว่า 4,355 ตัน จึงเป็นพืชเงินพืชทองของชาวเชียงรายโดยแท้
นักเที่ยว นักศึกษา นักวิจัย… ที่ต้องการประสบการณ์ใหม่ๆช่วง “กรีนซีซั่น” ในฤดูฝนที่เชียงราย วางโปรแกรมไว้…แต่ขอบอกอีกนิดว่า ..ที่ สาขาคหกรรมศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ – ครุศาสตร์ ม.ราชภัฏเชียงราย เขาก็มี “แหล่งเรียนรู้กาแฟ” และยังมีการชงให้ดื่มแบบสดๆด้วย…ใครสนใจลองถามดู เห็นไหมล่ะ…ที่เชียงรายมีอะไรดีๆ สารพัด ซ่อนอยู่มากมายที่รอการช่วย “เจียระไน” จากนักท่องเที่ยวและผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียนต่อไป..นี่คือปัจจัยที่ดึงดูดใจที่ให้ใครๆ…ต้องมา (ไป) เชียงราย.. !!
สุรพล เวียงนนท์
